สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้วครับ คราวที่แล้วผมเล่าเรื่องนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ส่วนใหญ่ก็สามารถปฏิบัติตามกฏของสถานที่ต่างๆ ได้ดี คงเป็นเพราะมีแหล่งข้อมูลให้เลือกอ่านและหาความรู้แพร่หลายขึ้น ส่วนในวันนี้ที่จริงเป็นเรื่องที่ผมอยากเขียนอยากเล่ามาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้เขียน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์และมีเรื่องราวที่น่าสนใจ จะเล่าก็กลัว แต่คราวนี้ได้ไปไหว้ขอพรและทำความเคารพพร้อมกับแอบขออนุญาตนำเรื่องราวมาเล่าต่อกันฟังนิดหน่อยครับ
เพื่อนๆ เคยไปแถวสถานีโตเกียว หรือเดินไปรอบๆ บริเวณแถววังอิมพีเรียล , 大手町 Otemachi ,丸の内 Marunouchi ( ชื่อคอลัมน์นี้ก็นำมาจากย่านนี้นี่เองครับ) ย่าน Otemachi, Marunouchi นี้เปรียบไปก็คล้ายๆ ย่าน Financial center ของโตเกียว คือมีออฟฟิศสำนักงานใหญ่ของธนาคารชั้นนำ บริษัทการเงินชั้นนำต่างๆ และบริษัทใหญ่ๆ ตั้งอยู่มากมาย ค่อนข้างหรูหราและรายล้อมไปด้วยตึกสูง ลองคิดเล่นๆ ดูนะครับว่าใจกลางโตเกียวขนาดนี้ พื้นที่แต่ละตารางนิ้วจะแพงมหาศาลแค่ไหน แต่ใครจะรู้ว่าท่ามกลางตึกสูงระฟ้าเช่นนี้มีพื้นที่เล็กๆ แทรกอยู่ พื้นที่นี้เป็นที่ตั้งของศาล 平将門 Taira no Masakado นั่นเอง
ปกติผมไม่เชื่อเรื่องภูติผีและสิ่งลึกลับเท่าไหร่นักครับ แต่ที่นี่ผมขอเลย ขนาดผมจะเขียนผมยังกลัวเลย เเต่คิดว่านำความรู้มาถ่ายทอดและส่งเสริมให้คนทำดี ทำบุญ ก็ขอเขียนสักหน่อยครับ ตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่นผมก็ไปทำธุระแถวๆ Otemachi, Marunouchi บ่อยอยู่เหมือนกันแต่ไม่เคยเห็นพื้นที่นี้มาก่อนเลย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2008 ผมกับภรรยาอยากไปชมบารมีสมเด็จพระจักรพรรดิ์ที่วังอิมพีเรียล วันที่ 2 มกราคมของทุกปี พระราชวังจะเปิดให้เข้าชมได้ตามจุดที่จำกัดนะครับ แต่เนื่องด้วยฝูงชนมหาศาลเกินไป อากาศก็ช่างหนาวเย็นและต้องต่อแถวนานมาก ผมปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำทนไม่ไหวจึงเดินออกมาจากคิวที่เข้าแถวรอ และเดินหาห้องน้ำกันไปเรื่อยๆ เมื่อเข้าเสร็จแล้วก็ถอดใจไม่ไปเข้าเฝ้าฯ แล้ว จึงเดิน ไปเรื่อยๆ จะไปหาทางลงสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดเพื่อกลับบ้าน ทันใดนั้น อยู่ๆ แฟนผมก็ล้ม เธอบอกว่าเหมือนมีใครมาจับคอแล้วผลัก พอเงยหน้าขึ้นมาพวกเรายืนอยู่หน้าป้ายที่เขียนว่า 平将門の首塚 Masakado kubizuka พอดี ตรงนั้นเป็นพื้นที่เล็กๆ แทรกตัวอยู่ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า ตรงนั้นคือสถานที่ที่เล่ากันว่าเป็นศาลที่ฝังศีรษะของท่านไทระ มาซากะโด เป็นหนึ่งในเชื้อสายของจักรพรรดิ์สืบทอดมาตั้งแต่สมัยก่อน
ไหนๆ พวกเราก็มาอยู่หน้าศาล ที่จริงผมเคยทราบประวัติของที่นี่มาก่อนแล้วแต่ยังไม่เคยมา พอมีโอกาสเลยลองเข้าไปกันทั้งคู่ อย่างที่บอกไปว่าปกติผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องภูติผีวิญญาณมาก่อน แต่ที่นี่เหมือนมีพลังงานบางอย่างอยู่เต็มไปหมด เพราะจากประวัติท่านมาซากะโดนี่ท่านถูกฆ่าตัดหัวและร่างถูกนำกลับไปเกียวโต ส่วนหัวอยู่ที่นี่ เค้าว่ากันว่ามีความอาฆาตแค้นรุนแรงหนึ่งในสามของภูติผีที่ญี่ปุ่นเลยละครับ
ท่านมาซากะโด เป็นเหลนของจักรพรรดิญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเมืองเกียวโต สมัยก่อนราชวงศ์มีหลานเหลนเยอะแยะมากมาย จนบางคนก็กลายเป็นชาวบ้านชาวเมืองธรรมดาไป ท่านมาซากะโดจึงย้ายมาอาศัยที่จังหวัดชิบะ ( ใกล้ๆ โตเกียว เพื่อนๆ บางคนอาจจะเคยไปวัดแถวเมืองนาริตะใช่มั้ยครับ มีคนเล่ากันมาว่าวัดที่นาริตะถูกสร้างขึ้นมาเพราะจะให้ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองเพราะกลัววิญญาณท่านมาซากะโดนั่นเอง ) ท่านถูกญาติฝ่ายลุงสร้างกลอุบายหลอกลวงที่ดินของท่านไป ที่จริงท่านก็ไม่อยากทะเลาะกับลุงนักแต่มีเหตุการณ์ทำให้บานปลายและท่านก็ฆ่าลุงตาย จากนั้นท่านก็มีความทะยานอยากเป็นจักรพรรดิ์แล้วจะสถาปนาโตเกียวขึ้นมาแทนเกียวโต จึงวางแผนทำการปฏิวัติ พอเรื่องนี้กระจายออกไปทำให้มีคนไม่พอใจท่านหลายฝ่ายและเกิดศัตรูมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่งลูกของลุงที่ท่านมาซากะโดเคยฆ่าตายก็กลับมาแก้แค้นแทนพ่อของเขา โดยยิงลูกธนูไปปักกลางหน้าผากพอดี ท่านเสียชีวิตลงแถบคันโต มีคนนำร่างกลับไปเกียวโตแล้วตัดหัวเพื่อประจาน
เมื่อท่านมาซากะโดเสียชีวิตแล้วร่างที่ถูกนำกลับไปกลับไปเกียวโต ก็ถูกตัดหัวขาดกระเด็น ตอนกลางคืนมีคนเล่าสืบต่อกันมาว่า หัวท่านมาซากะโดลืมตาอย่างโกรธแค้นพูดตลอดว่า ร่างของข้าอยู่ที่ไหน มาสู้กันอีกมั้ยไอ้พวกศัตรู‼!! แล้ววันหนึ่งหัวของท่านก็โผล่มาอยู่ที่โตเกียว แต่เหตุใดหัวของท่านจึงมาฝังอยู่ที่หน้าวังอิมพีเรียลตรงจุดตั้งศาลนี้ได้ ...!?!? น่ากลัวมั้ยครับ (´・Д・)」เรื่องน่าสยองเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ตรงนี้ ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น สภาพสังคมพัฒนาเปลี่ยนแปลงมากมายต่างจากสมัยก่อน แต่ที่ตรงนั้นไม่มีใครทำอะไรได้ ใครจะพัฒนาเป็นตึกสูงก็มีอันเป็นไปทุกคน แล้วคนญี่ปุ่นเองก็ยังทำบุญให้สถานที่ตรงนั้น
และเรื่องแปลกคือ เมื่อนับญาติบรรพบุรุษของผม ผมเป็นสายของคนที่ฆ่าท่านมาซากะโดตาย และชีวิตช่วงหนึ่งผมอาศัยอยู่ที่จังหวัดชิบะ โดยมันเป็นเรื่องบังเอิญทั้งหมดผมไม่เคยคิดว่าผมต้องมาอยู่ชิบะ และวันนั้นแฟนผมก็ถูกผลักเพื่อให้เรามาเจอศาลนี้ และครั้งนี้ที่ผมกลับญี่ปุ่นล่าสุดผมก็มีเหตุบังเอิญให้ต้องไปแถววังอิมพีเรียล ไหนๆ ก็ไปแล้วจึงแวะไปทำความเคารพบูชาที่ศาลด้วย มานับดูเป็นวันที่ 2 มกราคม เช่นเดียวกับที่ผมเคยมาครั้งแรกเลย
คราวหน้าขอเล่าเรื่องศาลนี้ต่ออีกหน่อยนะครับ วันนี้สวัสดีครับ