ผู้นำญี่ปุ่นและสหรัฐฯเห็นพ้องจะเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกับเกาหลีเหนือ หลังจากรัฐบาลโสมแดงอ้างว่าได้ทดสอบระเบิดไฮโดรเจน
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ แห่งญี่ปุ่น และประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้สนทนาทางโทรศัพท์ราว 20 นาทีในวันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคมเกี่ยวกับกรณีที่เกาหลีเหนืออ้างว่าได้ทดสอบระเบิดไฮโดรเจนเมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม
ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า การกระทำของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่บ่อนทำลายสันติภาพความมั่นคงของภูมิภาคและประชาคมนานาชาติ และนานาชาติจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้เกาหลีเหนือทำการยั่วยุเพิ่มเติมอีก
ทางด้านผู้นำสหรัฐฯ เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายอะเบะ และกล่าวว่าการกระทำของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคและประชาคมนานาชาติ และสหรัฐฯจะร่วมมีบทบาทนำในการหารือที่คณะมนตรีความมั่นคงฯ เพื่อใช้มาตรการคว่ำบาตรใหม่กับเกาหลีเหนือ
นายกฯญี่ปุ่นยังสั่งการให้บรรดารัฐมนตรีหามาตรการตอบโต้ และจับตามองความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ ญี่ปุ่นอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรโดยจำกัดการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ และห้ามเรือเกาหลีเหนือเข้าเทียบท่าเรือของญี่ปุ่นแม้มีจุดประสงค์เพื่อมนุษยธรรมก็ตาม
มาตรการเหล่านี้ถูกยกเลิกไปหลังจากนายอะเบะริเริ่มจะเจรจาปรับความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ โดยแลกกับการที่รัฐบาลโสมแดงต้องสืบสวนเกี่ยวกับชะตากรรมของพลเมืองชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัวไปโดยสายลับเกาหลีเหนือในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980
สถานีโทรทัศน์ NHK ยังรายงานการวิเคราะห์ของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ ที่ระบุว่าการประกาศเรื่องการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนของเกาหลีเหนือ มีจุดประสงค์ที่จะส่งเสริมความเป็นเอกภาพภายในชาติ ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมใหญ่ครั้งแรกในรอบ 36 ปีของพรรคแรงงานเกาหลีซึ่งเป็นพรรคที่ปกครองประเทศ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เชื่อว่าการระเบิดเมื่อวันพุธที่ 6 มกราคมนั้นไม่น่าจะเกิดจากระเบิดไฮโดรเจน เมื่อพิจารณาจากขนาดและแรงระเบิด.