นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกฯชินโสะ อะเบะ สร้างผลกำไรมหาศาลให้บริษัทญี่ปุ่น หากแต่ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่กลับบอกว่าไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแต่อย่างใด
บริษัทญี่ปุ่นเกือบ 1,000 แห่งประกาศผลการดำเนินการรอบครึ่งปีแรกโดยมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสูงเป็นประวัติการณ์ โดยบริษัทมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ประกาศจ่ายเงินปันผลให้นักลงทุนเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบร้อยละ 60
บริษัทชั้นนำญี่ปุ่นเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ “อะเบะโนมิกส์” อย่างชัดเจน เพราะบริษัทเหล่านี้ต่างมีฐานการผลิตในต่างประเทศ และส่งออกสินค้าไปจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งการกดค่าเงินเยนให้ต่ำเป็นประวัติการณ์ของรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้บริษัทเหล่านี้ทำรายได้จากการส่งออกได้มากขึ้น และยังได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกต่อหนึ่งด้วย
ทางด้าน รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศว่ารายได้จากภาษีของญี่ปุ่นประจำปีงบประมาณ 2557 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสูงถึงเกือบ 54 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 17 ปี
รายได้จากภาษีได้เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มาจากภาษีเงินได้ที่สูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีรายรับจากการขายหุ้นและเงินปันผลที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเก็บภาษีนิติบุคคลและภาษีผู้บริโภคได้มากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นร้อยละ 8
แต่ถึงแม้บริษัทยักษ์ใหญ่ และรัฐบาลญี่ปุ่นจะได้ประโยชน์จากนโยบาย “อะเบะโนมิกส์” แต่ประชาชนชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่กลับระบุว่า ยังคงมีรายได้ไม่เพียงพอและต้องทำงานหนักเหมือนเช่นเดิม ขณะที่บรรยากาศการค้าขายในประเทศญี่ปุ่นก็ไม่ได้คึกคักขึ้นอย่างชัดเจน
ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นส่วนหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า นโยบาย “อะเบะโนมิกส์” ขับเคลื่อนด้วยเจตนารมณ์ทางการเมือง มากกว่ามุ่งสร้างประโยชน์ให้กับชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำผลกำไรได้เพิ่มขึ้นมากมายนั้น ได้บริจาคเงินสนับสนุนให้กับพรรค LDP ของนายกฯชินโสะ อะเบะ อย่างมหาศาล
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าทางพรรค LDP อาจลงมติให้ยกเลิกระเบียบของพรรค ที่ให้ผู้นำพรรคดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 วาระติดต่อกัน หรือ 6 ปี เพื่อเปิดทางให้นายชินโสะ อะเบะ สามารถอยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศได้ต่อเนื่องหลังจากวาระในตำแหน่งนายกฯญี่ปุ่นปัจจุบันจะหมดลงในปี 2018.