นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะแห่งญี่ปุ่น แสดงความรู้สึกตระหนกเป็นอย่างมากต่อเหตุฆาตกรรมนักเรียนมัธยมต้นอายุ 13 ปีคนหนึ่งในญี่ปุ่น โดยตำรวจพบว่าเป็นฝีมือของเด็กชาย 3 คนที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน
คดีสะเทือนขวัญครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของญี่ปุ่นเกิดขึ้นที่เมืองคะวะซะกิ ใกล้กรุงโตเกียว เมื่อมีผู้พบศพ ด.ช.เรียวตะ อุเอะมุระ นักเรียนชั้นมัธยมต้นวัย 13 ปี ที่ริมฝั่งแม่น้ำทะมะเมื่อวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ในสภาพถูกแทงหลายแผลบริเวณลำคอ
หลังการสืบสวน ตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมเด็กชาย 3 คนเมื่อวานนี้ ฐานต้องสงสัยว่าฆาตกรรมด.ช.เรียวตะ อุเอะมุระ โดยผู้ต้องสงสัยว่าก่อเหตุร้ายแรงครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายวัย 18 ปี และ17 ปีเท่านั้น
ภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นเด็กชายหลายคนเดินไปทางแม่น้ำ โดยด.ช.อุเอะมุระอยู่ในกลุ่มเด็กเหล่านั้น และมีคนเห็นเขาไปกับกลุ่มเด็กชายบ่อย ๆ ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว คนที่รู้จักอุเอะมุระบอกว่า เขาถูกเด็กในกลุ่มหลายคนชกหน้าเมื่อเดือนที่แล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ อุเอะมุระยังเขียนข้อความทางแอพพลิเคชันไลน์ ระบุว่า “เขาอาจถูกฆ่าตาย”
หลักฐานจากภาพที่บันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดและข้อความโต้ตอบทางไลน์ ทำให้ตำรวจสันนิษฐานว่า เด็กชาย 3 คนดังกล่าวอาจพัวพันกับการฆาตกรรมในครั้งนี้
คดีสะเทือนขวัญครั้งนี้ทำให้นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นในวันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่งที่ เรียวตะ อุเอะมุระ เสียชีวิตอย่างโหดร้ายทารุณ นายกฯญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาเสียใจลึกซึ้งต่อบิดามารดาและสมาชิกครอบครัวของเด็กชายผู้เสียชีวิต
นายกรัฐมนตรีอะเบะยังเรียกร้องให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาว่ามีการประสานงานกันอย่างเพียงพอระหว่างโรงเรียนของอุเอะมุระ คณะกรรมการการศึกษาในท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานดูแลเยาวชนต่างๆ หรือไม่ เขาเน้นย้ำว่าต้องหามาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก.