ร้านซูชิสายพานเจ้าดังในญี่ปุ่น “เก็งกิ ซูชิ” เผยเตรียมยกเลิกสายพานเสิร์ฟซูชิในสาขา 130 แห่งทั่วประเทศภายใน 5 ปี ชี้จะประหยัดเงินได้นับพันล้านเยน ยันระบบสั่งตามออเดอร์ด้วยแท็บเลตได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ
วานนี้ (27 ก.ย.) เว็บไซต์เจแปนไทมส์ รายงานว่า "เก็งกิ ซูชิ" ร้านซูชิสายพานเจ้าดังที่มีสาขากว่า 130 แห่งทั่วญี่ปุ่นเปิดเผยว่า มีแผนเตรียมยกเลิกสายพานที่ใช้เสิร์ฟซูชิให้กับลูกค้าทั้งหมด เพื่อลดความสิ้นเปลืองและเพื่อเพิ่มความสดใหม่ของอาหารเมื่อถึงมือลูกค้า
ซูชิสายพาน หรือ ไคเต็นซูชิ (回転寿司) ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นตั้งแต่ยุค 1970 ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นรุ่งเรือง ทว่า จนถึงปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีถูกระบบสั่งตามออเดอร์ ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง การสั่งอาหารด้วยแท็บเลตเข้ามาทดแทน โดยนอกจากลูกค้าจะได้รับอาหารที่สดและรวดเร็วทันใจแล้ว ยังช่วยให้ทางร้านประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อยทั้งจากอาหารเหลือทิ้งและค่าไฟ
แหล่งข่าวจากร้านเก็งกิซูชิเปิดเผยว่า ตอนนี้การสั่งอาหารประมาณร้อยละ 80 สั่งตรงผ่านแท็บเลตที่มีประจำอยู่บนโต๊ะทุกโต๊ะ ทำให้ร้านเริ่มสั่งให้พนักงานวางซูชิบนสายพานน้อยลง ทั้งนี้จากสถิติของทางร้านพบว่ารายได้ต่อปีของสาขาแต่ละแห่งอยู่ที่เฉลี่ย 178 ล้านเยน หรือราว 50 ล้านบาทต่อปี โดยซูชิบนสายพานที่ต้องถูกโยนทิ้งเนื่องจากไม่มีลูกค้าหยิบรับประทานคิดเป็นร้อยละ 5 ของรายได้ หรือเท่ากับราว 8.9 ล้านเยนต่อปี (ราว 2.7 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อคูณด้วยจำนวน 130 สาขาของร้านเข้าไปทำให้ บริษัทต้องสูญเงินไปปีละกว่า 1.1 พันล้านเยน หรือราว 330 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงมีการปรับนโยบายและรูปแบบการดำเนินธุรกิจเสียใหม่
ปัจจุบันร้านของเก็งกิซูชิประมาณ 30 แห่งได้รื้อสายพานส่งซูชิออกแล้ว โดยบริษัทวางแผนที่จะรื้อสายพานออกจากร้านทุกแห่งภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทำให้มีการคาดหมายกันว่าร้านคัปปะซูชิ (Kappa Sushi) ซึ่งเป็นร้านคู่แข่งและมีสาขาทั่วประเทศกว่า 340 แห่งก็คงเตรียมดำเนินการปรับเปลี่ยนนโยบายตามเก็งกิซูชิเช่นกัน
