ทาโร ยามาโมโต อดีตดาราที่ผันตัวมาเป็นนักการเมือง สร้างความฮือฮาด้วยปฏิบัติการป่วนรัฐสภาสารพัดรูปแบบ ในระหว่างการพิจารณาร่างกฎหมายความมั่นคงจนสภาญี่ปุ่นเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ถึงแม้ร่างกฎหมายความมั่นคงจะถูกผลักดันโดยพรรครัฐบาลญี่ปุ่น จนผ่านการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่วุฒิสภาเมื่อเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา หากแต่ปฏิบัติการปั่นป่วนสภาของบรรดาสมาชิกพรรคฝ่ายค้านยังคงถูกกล่าวขวัญถึงโดยชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก โดยเฉพาะนายทาโร ยามาโมโต สมาชิกวุฒิสภาผู้ที่เรียกทั้งเสียงโห่และเสียงปรบมือได้มากที่สุด
นายทาโร ยามาโมโต สว.ผู้คัดค้านกฎหมายความมั่นคง ใช้กลยุทธ์ “เดินช้าแบบซุปเปอร์สโลว์โมชั่น” เพื่อไปหย่อนบัตรลงมติโดยหวังจะถ่วงเวลาการลงมติในนานที่สุด เมื่อบรรดาสว.ทั้งหมดหย่อนบัตรเรียบร้อยแล้ว แต่นายยามาโมโตยังคงเดินมาไม่ถึงครึ่งทาง ทำให้ประธานสภาต้องเร่งว่าจะยุติการลงคะแนนในไม่ช้า แต่นายยามาโมโตก็หาได้ใส่ใจไม่
เมื่อมาถึงด้านแท่นประธาน นายยามาโมโตยังสร้างความฮือฮาด้วยการควักลูกประคำออกมา พร้อมสวดมนต์และทำท่าเลียนแบบการคำนับศพต่อหน้าประธานสภาและนายกฯอะเบด้วย
พฤติกรรมของนายยามาโมโตเสียงเสียงโห่จากบรรดาสว.พรรครัฐบาล แต่กลับทำให้เขากลายเป็นคนดังในหมู่ผู้ที่คัดค้านกฎหมายดังกล่าว เมื่อสถานีโทรทัศน์แทบทุกช่องของญี่ปุ่นได้นำเสนอพฤติกรรมป่วนสภาของเขา
ทาโร่ ยามาโมโต อดีตดาราที่ผันตัวมาเป็นนักการเมือง เคยก่อพฤติกรรมสุดห่ามมาแล้วหลายครั้ง ทั้งการนำผู้ประท้วงบุกเข้าไปยังศาลาว่าการจังหวัดซากะ เพื่อคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่เรื่องที่ถูกวิจารณ์มากที่สุด คือ การทำจดหมายถึงสมเด็จพระจักรพรรดิ์ เพื่อคัดค้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ จนทำให้เขาถูกสั่งห้ามการเข้าร่วมราชพิธีหลวงทุกงานตลอดสมัยการประชุม
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมเรียกร้องความสนใจของทาโร่ ยามาโมโต ได้ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาเขต 8 ของกรุงโตเกียว และกลายเป็นนักการเมืองหนุ่มที่มีสีสันมากที่สุดคนหนึ่ง
การลงมติร่างกฎหมายความมั่นคงที่ถูกผลักดันอย่างเร่งรีบเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สร้างความวุ่นวายมากที่สุดครั้งหนึ่งในการเมืองของญี่ปุ่น เนื่องจากสว.พรรครัฐบาลและพันธมิตรมีจำนวนมากเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา บรรดาสมาชิกพรรคฝ่ายค้านจึงแทบจะไม่มีหนทางในการยับยั้งร่างกฎหมายความมั่นคง โดยทำได้แค่เพียงถ่วงเวลาในการพิจารณายืดเยื้อออกไปเท่านั้น ทั้งการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯชินโซ อะเบะและคณะรัฐมนตรี รวมทั้งประธานสภา แต่ทั้งหมดก็ถูกสมาชิกสภาพรรครัฐบาลลงมติคว่ำญัตติไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ สว.ฝ่ายค้านยังใช้กลยุทธ์ยกมือขออภิปรายจำนวนมาก แต่ประธานสภาก็มีมติจำกัดเวลาอภิปรายคนละ 10 นาทีเท่านั้น จนในที่สุด สว.ฝ่ายค้านจำนวนหนึ่งหมดหนทางเลือก จำต้องใช้กำลังเข้ากลุ้มรุมประธานสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการเมืองของญี่ปุ่น.