รถไฟความเร็วสูงชิงคันเซนเส้นทางล่าสุด ที่เชื่อมระหว่างกรุงโตเกียวกับเมืองคานาซาวะ ในจังหวัดอิชิกะวะ ประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย โดยทำให้เมืองคะนะซะวะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
รถไฟความเร็วสูงชิงคันเซนสายโฮะกุริกุ เปิดให้บริการมาครบรอบ 6 เดือนแล้ว โดยเส้นทางระยะทาง 450 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทาง 150 นาที ได้ช่วยย่นระยะเวลาเดินทางจากกรุงโตเกียวไปยังพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งเป็นดินแดนที่อนุรักษ์สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ได้เป็นอย่างดี
สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า รถไฟชินคันเซนสายล่าสุดนี้ประสบความสำเร็จในการทำให้เมืองคานาซาวะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยจำนวนผู้โดยสารที่ขึ้นลงรถไฟที่สถานีคานาซาวะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่เริ่มให้บริการรถไฟความเร็วสูงสายใหม่นี้ ตัวเลขนี้ดีกว่าที่ผู้ให้บริการรถไฟคาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น คือ เดิมนั้นประเมินตัวเลขไว้ว่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่า
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผลที่เกิดขึ้นจากการให้บริการรถไฟความเร็วสูงสายใหม่อาจเป็นเพียงชั่วคราว เพราะผู้ให้บริการรถไฟและทางการท้องถิ่นรวมทั้งธุรกิจต่างๆ ได้ออกมาตรการรณรงค์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ หากแต่เมื่อกระแสนิยมซาลงไป จำนวนผู้โดยสารอาจจะลดลงแบบฉับพลันทันทีหรือค่อยๆ ลดลงในปีถัดมา
ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ภูมิภาคโฮะกุริกุที่เคยถูกโดดเดี่ยวด้านการคมนาคมมานาน กำลังเผชิญความท้าทายในแง่ของการพัฒนาภูมิภาค โดยบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมแผนรับมือให้ดีกับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มลดลงไป โดยต้องคิดว่าจะต้องทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาซ้ำอีก ?
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาซ้ำนั้นอาจต้องมากกว่าการเที่ยวชมสถานที่ทั่วไป โดยทางท้องถิ่นอาจจัดกิจกรรมอิงประสบการณ์ เช่น การลองฝึกศิลปะหัตถกรรมดั้งเดิมหรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในเทศกาลท้องถิ่นต่างๆ
ทั้งนี้ เมืองคานาซาวะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมของชนชั้นนักรบหรือซามูไร ขณะที่เมืองโทะยะมะ ซึ่งอยู่ติดกันก็เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งของบรรดาพ่อค้าเร่ขายยา ผู้คนในเมืองต่าง ๆ เหล่านี้พากันอนุรักษ์วัฒนธรรมและขนบประเพณีต่างๆ เอาไว้เป็นอย่างดี
การคิดค้นสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยอาศัยข้อได้เปรียบจากวัฒนธรรมและขนบประเพณี ดึงคนทั้งภายในและภายนอกชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วม เป็น“นวัตกรรม” ที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวยังให้ความเห็นว่า รถไฟความเร็วสูงชิงคันเซ็นได้ช่วยพลิกฟื้นภูมิภาคโฮะกุริกุให้มีชีวิตชีวา หากแต่การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ที่ไปเยือนโฮะกุริกุ ก็แปลว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่อื่นลดลงไป ดังนั้นภูมิภาคอื่นๆในญี่ปุ่นก็ต้องปรับปรุงแผนพัฒนาภูมิภาคของตนเอง เพื่อแข่งขันกับภูมิภาคโฮะกุริกุ ทั้งหมดจึงถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับญี่ปุ่น.
ติดตามข้อมูลการท่องเที่ยวเมืองคานาซาวะได้จากเว็บไซต์ (มีภาษาไทย)
http://www.kanazawa-tourism.com/thai/main/index.php