ญี่ปุ่นรณรงค์ธรรมเนียมใหม่ในการใช้บันไดเลื่อน

บริษัทรถไฟของญี่ปุ่นและสมาคมผู้ผลิตลิฟท์และบันไดเลื่อน ร่วมกันรณรงค์ธรรมเนียมใหม่ในการใช้บันไดเลื่อน โดยไม่จำเป็นต้องยืนชิดด้านใดข้างหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากคนที่เดินสวนขึ้นไปบนบันไดเลื่อน

ตามธรรมเนียมของญี่ปุ่นแล้ว ผู้โดยสารบันไดเลื่อนจะยืนชิดด้านใดด้านหนึ่ง (โตเกียวยืนชิดซ้าย,โอซากายืนชิดขวา) เพื่อให้ผู้ที่รีบเร่งสามารถเดินขึ้นไปได้ก่อน หากแต่ธรรมเนียมเช่นนี้ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุกับคนที่เดินขึ้นบันได้ได้มาก ทั้งการพลัดตกขั้นบันได รวมทั้งการสะดุดหรือเกี่ยวเข้ากับสิ่งของของคนที่ยืนอยู่ สำนักงานกิจการผู้บริโภคของญี่ปุ่น ระบุว่าตั้งแต่มี 2011-2013 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเดินบนบันไดเลื่อนถึง 3,865 คน

ด้วยเหตุนี้ บริษัทรถไฟของญี่ปุ่นและสมาคมผู้ผลิตลิฟท์และบันไดเลื่อนจึงรณรงค์ให้ผู้ใช้บันไดเลื่อนสามารถยืนกระจายได้ทั้งสองฝั่งของขั้นบันได ไม่จำเป็นต้องเว้นพื้นที่ว่าง แต่ที่สำคัญคือ ต้องจับราวบันไดตลอดเวลา และห้ามเดินบนบันได นอกจากนี้หากเป็นไปได้ควรเว้นขั้นบันไดห่าง 1 ขั้นจากคนที่อยู่ข้างหน้า เนื่องจากเคยเกิดอุบัติเหตุที่คนบนบันไดเลื่อนล้มลงเหมือนโดมิโน เนื่องจากยืนชิดกันมากเกินไป

บริษัทรถไฟ 51 ของของญี่ปุ่น รวมทั้งสนามบินฮาเนะดะและสนามบินนาริตะก็จะจัดทำป้ายรณรงค์การใช้บันไดเลื่อนที่ถูกต้องอย่างแพร่หลาย ผู้แทนของบริษัท East Japan Railway Co. ระบุว่า การเกิดอุบัติเหตุลดลงมากหลังรณรงค์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ธรรมเนียมการยืนชิดด้านหนึ่งของบันไดเลื่อนฝังรากในสังคมญี่ปุ่นเป็นเวลานาน จึงต้องใช้เวลาที่จะปรับเปลี่ยนความเคยชิน

ทั้งนี้ ธรรมเนียมการใช้บันไดเลื่อนนี้ไม่ได้เริ่มต้นที่ญี่ปุ่น หากแต่มีต้นกำเนิดที่กรุงลอนดอน หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงปี 1944 และธรรมเนียมนี้ได้แพร่หลายมายังแดนอาทิตย์อุทัย โดยสถานีรถไฟฮันคิว อุเมะดะ ที่นครโอซากา ได้เริ่มรณรงค์ให้ยืนชิดฝั่งขวาแบบเดียวกับที่กรุงลอนดอนในช่วงปี 1967

หลังจากนั้น สถานีรถไฟใต้ดินชิน โอชะโนมิซุในกรุงโตเกียวได้รับธรรมเนียมนี้ไปใช้ในปี 1969 เนื่องจากบันไดเลื่อนภายในสถานีมีความยาว 41 เมตร ซึ่งเป็นบันไดเลื่อนใต้ดินที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเหตุใดธรรมเนียมการยืนชิดขวาแบบที่กรุงลอนดอนและนครโอซากา จึงถูกเปลี่ยนเป็นยืนชิดซ้ายเมื่อมาถึงกรุงโตเกียว.