ช่วงนี้ข่าวคราวเรื่องบันไดเลื่อนสร้างความหวาดผวาให้ผู้คนในสังคมเป็นอย่างยิ่ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ในประเทศจีน จนกระทั่งมาถึงบ้านเราก็เพิ่งมีข่าวเกี่ยวกับบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งพังลงมา
รวมไปถึงข่าวเกี่ยวกับบันไดเลื่อนก่อนหน้านี้ที่มีอันตรายหลายต่อหลายครั้ง นำมาซึ่งการบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนไม่น้อย
สำหรับคนเป็นพ่อแม่ ดิฉันเชื่อว่าเรื่องนี้สร้างความตื่นตระหนกไม่น้อยทีเดียว เนื่องเพราะสังคมยุคนี้พ่อแม่ ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักมีรูปแบบการใช้ชีวิตในศูนย์การค้า หรือห้างสรรพสินค้า เรียกว่าทั้งกินทั้งช้อป รวมไปถึงพาลูกไปเรียนกวดวิชา ก็ล้วนแล้วต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นข่าวคราวเรื่องนี้จึงสร้างความกังวลใจให้กับพ่อแม่จำนวนไม่น้อย ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ควรกังวลค่ะ เพราะการใช้บันไดเลื่อนต้องระมัดระวังอย่างมาก
ในบ้านเรามักจะเห็นบันไดเลื่อนอยู่ 2 แบบ
แบบแรกก็ลักษณะเป็นขั้นคล้ายบันไดที่พบเห็นทั่วไปที่ใช้ในการขึ้นหรือลงระหว่างชั้น กับแบบที่สอง ไม่มีขั้นบันได จะเป็นทางเลื่อนลาดแบบเฉียงขึ้นลง มักจะอยู่ในห้างซูเปอร์สโตร์ หรือทางลาดปกติที่ใช้ในสนามบิน
ประเด็นสำคัญเราต้องใช้มันให้ถูกวิธี เรื่องนี้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องสอนและปลูกฝังให้ลูกใช้บันไดเลื่อนให้ถูกวิธี และปลอดภัย
ประการแรกต้องทำความเข้าใจกับลูกก่อนว่าบันไดเลื่อนไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างชั้น ต้องระมัดระวัง เพราะอาจเป็นอันตรายได้
ประการที่สองสอนท่ายืนที่ถูกต้องขณะใช้บันไดเลื่อน ควรยืนตรงกลาง เก็บเท้าให้ห่างจากขอบด้านข้าง หรือถ้ากรณีมีผู้ที่ต้องการเดินผ่าน ขอให้ยืนชิดขวา เพื่อให้ผู้ที่เดินอยู่ได้เดินผ่านไปทางซ้ายมือ รวมไปถึงอย่ายื่นอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายออกไปด้านนอกบันไดเลื่อนเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นศีรษะ หรือมือหรือแขนก็ตาม
สิ่งสำคัญควรมองไปข้างหน้า อย่ามัวแต่คุยโทรศัพท์มือถือ หรือแชททางโทรศัพท์ หรือใจลอย ทำให้ขาดความระมัดระวังตัว
ประการที่สามต้องบอกให้ลูกจับราวบันไดให้แน่นทุกครั้ง จะช่วยป้องกันไม่ให้เสียการทรงตัว กรณีที่ลูกยังเล็ก ขอให้พ่อแม่อุ้มลูกทุกครั้งที่ต้องขึ้นบันไดเลื่อน ถ้าเป็นเด็กโต พ่อหรือแม่ต้องจับมือไว้ด้วยทุกครั้ง เพราะเด็กยังทรงตัวไม่ได้ดีเท่าผู้ใหญ่ และให้ยืนอยู่ข้างคุณตลอดเวลา ที่สำคัญ ต้องสอนให้ลูกเข้าใจว่าเมื่อถึงขั้นสุดท้ายของบันไดเลื่อนต้องก้าวข้ามซี่ของริมขั้นบันไดเลื่อนไป โดยเฉพาะเด็กที่เท้ายังเล็ก เพราะเท้าอาจติดในขั้นบันไดเลื่อนได้
ประการที่สี่บอกข้อห้ามเกี่ยวกับการใช้บันไดเลื่อนด้วย เช่น อย่านั่งบนราวบันได อย่าวิ่งทวนการเคลื่อนไหวของบันได เพราะเด็กส่วนใหญ่ชอบวิ่งขึ้นบันไดที่เลื่อนลง และวิ่งลงบนบันไดที่เลื่อนขึ้น หากมีการสะดุดหกล้มหรือพลาด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ประการที่ห้าเมื่อขึ้นหรือลงสุดทางบันไดเลื่อนแล้ว อย่ายืนขวางทางคนอื่น ให้รีบเดินออกมาจากบันไดเลื่อนทันที หากยืนขวางอยู่จะทำให้ผู้ใช้คนอื่นเดินขึ้นหรือลงจากบันไดเลื่อนไม่ได้ และอาจทำให้มีการชนกัน และอาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มลงได้
ประการที่หกอย่านำสิ่งของที่มีน้ำหนักมากวางบนบันไดเลื่อน ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นเด็ก หรือรถเข็นตามห้างสรรพสินค้า เพราะนอกจากจะเป็นสิ่งกีดขวางคนอื่นแล้ว อาจทำให้เสียการทรงตัวได้ ซึ่งหมายรวมไปถึงบันไดเลื่อนที่ใช้ในซูเปอร์สโตร์และมีการขนของใส่ตะกร้าเต็มรถเข็น มีเหตุการณ์อันตรายจากรถเข็นประเภทนี้มานักต่อนักแล้ว ควรหันไปใช้ลิฟต์แทน
ประการที่เจ็ดระมัดระวังเรื่องเครื่องแต่งกายของตัวเองและลูกด้วย เช่น สวมกระโปรงยาว หรือรองเท้าที่ผูกเชือกหรือไม่ เพราะอาจเสียจังหวะ กระโปรงหรือเชือกรองเท้าติดเข้าไปในบันไดเลื่อนได้
ทั้ง 7 ข้อ เป็นเพียงแนวทางเพื่อดูแลและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ต้องเริ่มจากความไม่ประมาท แต่ประเด็นสำคัญต้องดูสภาพของบันไดเลื่อนในสถานที่นั้น ๆ ด้วย ว่ามีสภาพแบบไหน ชำรุดหรือไม่ หรือได้มาตราฐานหรือเปล่า
ถ้ามีข้อที่ 8 ก็เห็นจะเป็นว่าถ้าลำพังแค่ไม่กี่ชั้นและมีบันไดธรรมดาอยู่ไม่ไกล ก็เปลี่ยนบรรยากาศเดินขึ้นลงบันไดธรรมดาบ้างก็ดี
คืนสู่ธรรมชาติ แถมยังเป็นการออกกำลังกายอีกต่างหาก หรือถ้าจะให้ดีก็ลดการพาลูกไปศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าบ้างก็ได้ค่ะ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
