สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว วันนี้ผมคิดว่าเรื่องที่ผมจะพูดน่าจะค่อนข้างจริงจังที่สุดเท่าที่เคยเล่ามา (o^^o) มีเพื่อนๆ เคยถามผมว่าที่ญี่ปุ่นมีอันตรายหรือเรื่องที่ต้องระมัดระวังบ้างไหม ผมบอกเลยครับว่ามีสิครับ วันนี้จะนำมาพูดสัก 2 เรื่องครับ
เพื่อนๆ เคยได้ยินสาวๆ ถูกลวนลามบนรถไฟ หรือรถสาธารณะมั้ยครับ กรณีนี้ก็มีจริงในสังคมญี่ปุ่น แต่สำหรับวันนี้จะเล่าในอีกมุมที่คุณผู้ชายต้องระวังละครับ คือมุมกลับกันสาวบางคนอาจต้องการแกล้งหรือเรียกเงินจากฝ่ายชาย จึงแกล้งว่าถูกคนข้างๆ ลวนลาม ซึ่งเรื่องลักษณะก็มีบ่อยเลยครับในสังคมญี่ปุ่น แบบนี้เราเรียกว่า 痴漢 (chikan)
ช่วงเวลาเช้าๆ หลังเลิกงาน หรือช่วงเวลาเร่งรีบ ในรถสาธารณะต่างๆ มักจะมีคนเยอะ ในการโดยสารรถไฟนั้น สาวๆ เองก็ต้องระวังคนโรคจิตมาลวนลาม และหนุ่มๆ ที่ปกติก็ต้องระวังโดนแกล้งถูกกล่าวหาว่าลวนลามคนอื่นด้วย ทำไมการโดนกล่าวหาว่าลวนลามคนอื่นน่ากลัว เพราะถ้าผู้หญิงหรือคนที่จะแกล้งมาจับมือเราแล้วร้องให้คนช่วย และกล่าวหาว่ามาลวนลามเธอ เรื่องแบบนี้มันพิสูจน์หลักฐานว่าไม่ได้ทำได้ยาก อาจโดนเรียกค่าเสียหายหรือเสียค่าจ้างทนายมากกว่าหนึ่งล้านบาทหรือถูกขู่ว่าจะแจ้งไปทางบริษัทต้นสังกัดที่เราทำงานอยู่ เพราะทุกบริษัทส่วนใหญ่ห้ามกระทำการลามกอนาจาร หรือลวนลามในที่สาธารณะอยู่แล้วถ้ามีคนมาแจ้งอาจมีผลทำให้บุคคลคนนั้นตกงานเลยทีเดียวละครับ เขาจึงต้องยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อไม่ให้ถูกไล่ออก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดเลยด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้มีข่าวหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ คือชายหนุ่มคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่าลวนลามคนอื่นในรถไฟ สาวที่ไปแจ้งตำรวจคุยอยู่นานขู่ต่างๆ นานา ภรรยาของหนุ่มที่ถูกกล่าวหาก็อับอายมากจนขอหย่าและเข้าก็ต้องเสียค่าปรับให้สาวไป ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำ
เพื่อเป็นการป้องกันตัว เลยมีคนแนะนำกันมาว่าให้ใช้มือทั้งสองข้างจับราวรถไฟไว้ อย่างน้อยจะได้ไม่เป็นการแสดงว่ามีมือว่างๆ ที่จะไปใช้ลวนลามคนอื่นครับ
ช่วงที่ผมทำงานที่บริษัทเดิมก็มีกฏบังคับเข้มงวดมาก ถ้าเกิดไปทำอนาจารหรือลวนลามคนอื่น รับรองโดนไล่ออกทันทีและอาจโดนลงข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งเลยด้วย ผมเลยค่อนข้างระมัดระวังตัวมาก เวลาโดยสารรถไฟจะไม่ค่อยอยู่ใกล้ผู้หญิง ส่วนใหญ่จะยืนแถวประตู แล้วจับราวทั้งสองมือเลย ทุกคนในบริษัทก็ทำแบบเดียวกัน
เร็วๆ นี้มีเพื่อนผมที่เคยทำงานบริษัทเดียวกันมาเที่ยวเมืองไทย เขาถามผมว่าผมทำงานที่บริษัทกี่ปีนะ 7 ปีเหรอ ผมบอกไม่ใช่ ! ((((((#`Д´)ノ ผมทำ 6 ปีกับ 11 เดือน !! .. ตามปกติรอบปีการทำงานที่ญี่ปุ่นจะเริ่มจากเดือนเมษายนช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานหรือต้นฤดูใบไม้ผลิ ไปสิ้นสุดที่เดือนมีนาคมของปีถัดไป แต่ผมออกตอนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ไงจึงเท่ากับ 11 เดือน อันที่จริงผมควรทำงานให้ถึงสิ้นเดือนมีนาคมแล้วเอาวันพักร้อนที่เหลือไปใช้ก็สามารถลดวันทำงานของเดือนมีนาคมได้เกือบเดือน แต่ผมเลือกไม่ไปเลยเพราะผมเป็นคนคิดมากนี่แหละครับกลัวว่ามีผู้ไม่ประสงค์ดีจะแกล้งมากล่าวหาว่าผมลวนลามเขา เพราะถ้าเกิดมีเหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นละก็ประวัติผมเสียทันทีแถมชวดเงินที่ควรจะได้จากการลาออกทั้งก้อนเลย แถมอาจได้นอนอยู่ในคุกด้วยครับ (´・Д・)」
มีคนที่ทำงานจะเกษียณราชการคนหนึ่งเค้าก็ทำแบบผมคือเค้าบอกสองอาทิตย์ก่อนวันที่ลาออกเค้าใช้เวลาหมกตัวอยู่ในบ้านตลอดเพราะกลัวปัญหานี้แหละครับ เพราะเค้าบอกว่าถ้าเกิดมีอะไรขึ้นมาเค้าก็จะอดได้เงินเกษียณหลายล้านเลย ที่ญี่ปุ่นซีเรียสจริงๆ ครับ พอเพื่อนผมฟังแบบนี้เขาก็บอกว่าน่าเสียดายเงินเดือนของเดือนมีนาคมแต่ก็เห็นด้วยที่ทำไป ขนาดลูกของเพื่อนผมยังอยู่ชั้นประถมศึกษาเอง เขาก็สอนให้ระวังเรื่องนี้ไว้แล้ว
มีคนบอกว่าที่เมืองไทยอาจมีขโมยมาขโมยเงินหรือทรัพย์สิน แต่ที่ญี่ปุ่นโรคจิตขโมยกางเกงในครับ เงินไม่เอา เอากุงเกงใน...(*_*)~ คนแปลกๆ เยอะ
ที่เมืองไทยสิ่งที่ควรระวังในเวลาโดยสารรถไฟหรือรถบัสที่คนเยอะมีอะไรบ้างครับ เกี่ยวกับการลักขโมยหรือเปล่า ครั้งหนึ่งผมเคยโดยสารรถไฟไปหาดใหญ่ แล้วเดินไปทานอาหารที่ตู้อาหาร ในขณะที่ไปซื้ออาหารมีสาวสวยประเภทสองเป็นแคชเชียร์ ช่วงที่กำลังจ่ายเงินผมก็ยื่นเงินให้เธอ เธอก็จับหมับเข้าที่ข้อมือผมเลย!¥)&@!! แบบนี้เค้าเรียก chikan รึเปล่าหนอ !!
(;ノД`)/ヽ(゚Д゚# )