เชียงราย - พบต้นซากุระพันธุ์ไทเรียว 1 ใน 3 สายพันธุ์ต้นตำรับจากญี่ปุ่น ที่นำมาปลูกตามโครงการถนนซากุระเชียงราย เฉลิมพระเกียรติฯ ริมทางเข้าศาลากลางฯ บานแล้ว แถมมีทิ้งใบ-ผลิดอกอีกหลายต้นทั้งที่เพิ่งปลูกได้ไม่ถึงปี แถมที่ญี่ปุ่นจะบานช่วงเมษาฯ ผู้ว่าฯ เชื่อจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอนาคต
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้นซากุระที่ จ.เชียงราย ประเทศญี่ปุ่น ที่นำมาปลูกเรียงรายบริเวณข้างถนนทางเข้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย ได้เบ่งบานเห็นดอกสีชมพูอย่างชัดเจนแล้ว 1 ต้น ขณะที่ต้นอื่นๆ ก็เริ่มทิ้งใบเป็นสัญญาณว่าเตรียมจะผลิดอกแล้วเช่นกัน ทั้งที่ตามปกติดอกซากุระในญี่ปุ่นจะผลิดอกและบานในช่วงเดือนเมษายน แต่ปรากฏว่าดอกที่นี่กลับเบ่งบานในช่วงฤดูฝน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่ทราบข่าวต่างแปลกใจไปตามๆ กัน พร้อมกับแวะเวียนไปถ่ายภาพ รวมทั้งมหาวิทยาลัยพะเยาก็ได้นำคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาศึกษารายละเอียดเพื่อเตรียมนำไปปลูกที่ จ.พะเยา
นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดได้รับมอบซากุระจากนายโกโบริ ทาเคโอะ ผู้บริหารจากสมาคมซากุระญี่ปุ่น 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ไทเรียว พันธุ์คาวาดุ และพันธุ์ซูเซนจิคาน จำนวน 1,000 ต้น เพื่อนำมาปลูกตามโครงการถนนสายซากุระ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธ.ค. 57 โดยได้แบ่งมาปลูกที่ศาลากลางจังหวัด 200 ต้น ที่เหลือกระจายไปปลูกตามสถานที่ต่างๆ เช่น สวนไม้งามริมน้ำกก ต.ริมกก อ.เมือง การท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง
ซึ่งเดิมก็กังวลเรื่องการดูแลรักษา แต่ทางนายโกโบริได้ให้คำแนะนำจึงทำให้เติบโตขึ้น พร้อมกับแจ้งไว้ว่าตามปกติต้นซากุระนี้จะผลิดอกเมื่อมีอายุได้ 3-5 ปีขึ้นไปแล้ว แต่ปรากฏว่าหลังจากนำซากุระมาปลูกได้ 8-9 เดือนกลับผลิดอกแล้ว บางต้นก็ทิ้งใบเตรียมผลิดอก ทำให้ตื่นเต้นกันมาก
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ต้นซากุระที่ผลิดอกให้เห็นนี้เป็นซากุระพันธุ์ไทเรียว ซึ่งตามปกติที่ประเทศญี่ปุ่นจะบานราวเดือนเมษายน โดยจะทิ้งใบออกหมด และเปลี่ยนเป็นดอกเต็มต้นแทน ขณะที่ต้นพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับต้นซากุระ และมีอยู่ในเทือกเขาต่างๆ ของ จ.เชียงราย ก็มักเบ่งบานในเดือนกุมภาพันธ์หรือปลายฤดูหนาว
อย่างไรก็ตาม การเบ่งบานของดอกซากุระจากสายพันธุ์ต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่นถือเป็นสัญญาณที่ดีของจังหวัดว่าดอกซากุระสามารถเบ่งบานได้จริง และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดต่อไป