xs
xsm
sm
md
lg

ข้อไม่ควรทำเมื่อไปร้านซูชิ ตอนที่ 2 โรงละครซูชิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับ Mr.Leon มาแล้วครับ คราวที่แล้วผมพูดถึงเรื่องซูชิแบบสายพานไปแล้ว ยังมีร้านซูชิอีกแบบคือร้านที่รับออเดอร์ตามที่ลูกค้าสั่ง ร้านแบบนี้เมนูต่างๆ มักจะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นถ้าเพื่อนๆ มีคนญี่ปุ่นพาไปน่าจะสื่อสารกับทางร้านได้ดียิ่งขึ้นครับ

ซูชิส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยข้าวปั้นปรุงรสน้ำส้มสายชูสำหรับทำซูชิ และหน้าต่างๆ เช่น ไข่หวาน กุ้ง ปลาดิบต่างๆ อาจมีวาซาบิ หรือสาหร่ายหรือเครื่องเคียงอื่นๆ ตามสั่ง ซึ่งข้าวปั้นนี้เรียกว่า Shari(シャリ) มาจากŚarīra (พระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเมล็ดข้าวสาร) ซึ่งถือว่าเป็นของสูงและมีค่ามาก คนญี่ปุ่นถือว่าข้าวมีความสำคัญมาก เพื่อนๆ ลองอ่านได้จากบทความนี้ครับ ... “ญี่ปุ่น..วันขอบคุณข้าวและเทพเจ้าแห่งลมฟ้าอากาศ” ดังนั้นทั้งอาชีพพ่อครัวทำซูชิเอง หรือตัวซูชิเองก็ตามถือว่ามีตำนานครับ มีที่มาที่ไปมีความสำคัญดังนั้นก็ต้องมีมารยาทในการปฏิบัติเมื่ออยู่ในร้านด้วย ข้อที่ไม่ควรทำโดยทั่วๆ ไปก็คล้ายๆ กับข้อที่ไม่ควรทำเมื่อเข้าร้านซูชิสายพานครับ แต่ร้านที่เราต้องสั่งเองอาจยุ่งยากและติดขัดเรื่องการสื่อสารเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง

ร้านซูชิแบบที่เราต้องสั่งเองจะมีเมนูมาให้เลือก ผมขอแบ่งระดับความยากง่ายในการทานเป็น 3 ระดับนะครับ

* ระดับทานง่าย สำหรับผู้เริ่มทานซูชิ จะเป็นซูชิที่ทานง่ายๆ ท่านที่ทานปลาดิบไม่ได้น่าจะทานซูชิลักษณะนี้ได้ครับ เช่น ซูชิไข่หวาน ซูชิกุ้งนึ่ง ซูชิฟูโตมากิ และปลาอื่นๆ ที่ทานไม่ยากนัก

* ระดับกลาง เป็นซูชิที่ทำจากปลาสีขาว Shiromi(白身), Hikari-mono(光り物) ซึ่งปกติมีรสชาติจืดแต่อร่อย คนญี่ปุ่นจะจิ้มแค่โชยุก็อร่อยแล้วครับ มีเพื่อนคนไทยของผมบอกว่าที่เมืองไทยมีอากาศค่อนข้างร้อนจึงไม่นิยมทานปลาดิบเนื่องเพราะการนำของสดวางไว้ที่อุณหภูมิปกติในอากาศที่ร้อนไม่นานของสดนั้นอาจเน่าเสียได้ จึงนิยมปรุงรสจัดจ้านอร่อยไปอีกแบบ แต่ที่ญี่ปุ่นการทานปลาสดนั้นไม่ต้องปรุงรสจัดเพราะต้องการได้ลิ้มรสที่แท้จริงของปลานั้นๆ ครับ ถ้าเพื่อนๆ ทานซูชิระดับกลางขึ้นไปได้อร่อยก็น่าจะเริ่มทานรสชาติเดียวกันกับคนญี่ปุ่นได้แล้วครับ

* ระดับทานยากสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการรับประทานของดิบ คือซูชิอื่นๆ ที่ทำจากของสดอื่นๆ เช่น ไข่หอยเม่น หอยต่างๆ หรือ Gunkan-maki (軍艦巻) , Kai-mono (貝物)

ซึ่งระดับที่แบ่งความยาก ง่ายนี้นี้มาจากความคิดเห็นของผมในมุมมองที่ว่าคนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกับซูชิเท่านั้นเองนะครับ ถ้าท่านใดชอบทานซูชิอยู่แล้วก็ไม่ต้องคิดเรื่องการแบ่งระดับนะครับ สำหรับท่านที่ยังไม่เคยทานลองทานระดับที่ทานง่ายก่อนก็ได้ครับ
ซูชิฟูโตมากิ
สำหรับข้อที่ไม่ควรทำเมื่อไปร้านซูชิก็คล้ายๆ ข้อที่ไม่ควรทำเมื่อไปร้านซูชิแบบสายพานอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นครับ ปกติร้านซูชิจะมีวาซาบิ หรือขิงดองให้ลูกค้าตักทานเอง ถ้าลูกค้าทานปกติทางร้านก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ถ้าลูกค้าตักไปมากๆ แล้วกินไม่หมด หรือตักเล่น หรือกั๊กเพราะถือว่าของฟรี แบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัตินะครับ เคยมีร้านราเมนร้านหนึ่งมีบริการต้นหอมให้ลูกค้าตักฟรี แล้วมีลูกค้าคนญี่ปุ่นนี่ละครับตักต้นหอมของร้านมาใส่จานตัวเองจนพูน รู้สึกครั้งนั้นทางร้านก็แจ้งกับลูกค้าเลยว่าครั้งหน้ากรุณาอย่าทำแบบนี้อีก และไม่อยากให้เข้าร้านอีกด้วย เรื่องนี้เป็นกระทู้ฮิตในเว็บไซต์ญี่ปุ่นเลยละครับ ถือว่าการกระทำแบบนี้ไม่ควรปฏิบัตินะครับ

เช่นกันผมชอบไปทานสุกี้ที่ร้านหนึ่งที่เมืองไทยเรานี่แหละครับ และชอบขอชุดพริกกับกระเทียมด้วย พอทานชุดแรกหมด ผมก็ขอชุดที่สอง แต่ชุดที่สองมีกระเทียมมานิดเดียวเอง ผมก็รู้สึกว่า อยากทานอีกแต่ก็เข้าใจทางร้านว่าอาจจะต้องลดต้นทุน ผมก็ไม่ได้ขอเพิ่มอีก จากกรณีนี้ผมก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะครับทั้งทางลูกค้าร้านซูชิเองก็อยากทานขิงดอง หรือของบริการฟรีบนโต๊ะ แต่ทางร้านเองก็ไม่อยากให้ลูกค้าทานมากเกินปกติหรือทิ้งๆ ขว้างๆ ดังนั้นมารยาทเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องเห็นใจกันทั้งสองฝ่ายครับ

ต่อไปการหยิบชิ้นซูชิเพื่อไปจิ้มซอสควรนำด้านปลาจิ้มเพราะถ้านำด้านข้าวไปจิ้มซอสอาจทำให้ข้าวหกได้ครับ

ส่วนบทความคราวที่แล้วที่ถามไปว่าการสั่งข้าวน้อยกว่าปกติควรทำไหม ข้อนี้ถ้าเป็นซูชิแบบสายพาน พ่อครัวจะทำการปั้นซูชิอย่างเร็วและกะปริมาณข้าวเท่าๆ กันอยู่แล้วบางร้านปั้นข้าวโดยใช้เครื่องจักรด้วยไม่สามารถเปลี่ยนปริมาณข้าวได้ แต่ร้านซูชิที่เราสั่งตามเมนูนั้นเราสามารถขอข้าวน้อยกว่าปกติได้ครับ

ทำไมผมจึงพูดเรื่องขอข้าวน้อย เพราะครั้งหนึ่งเพื่อนคนไทยของผมไปทานซูชิร้านดังแถวตลาดปลาที่ญี่ปุ่น แล้วสั่งซูชิมาทานแล้วพวกเค้าทานแต่หน้าเหลือข้าวไว้เต็มเลย วันนั้นผมไม่ได้ไปกับเพื่อนๆ ด้วยไม่เช่นนั้นจะบอกว่า การสั่งซูชิมาทานแต่หน้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำมากๆ นะครับ ไม่ใช่กรณีนี้เท่านั้นเคยมีกรณีนักร้องวัยรุ่นญี่ปุ่นไปทานซูชิแล้วทานแต่หน้าเช่นกัน โดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะเลยครับ เพราะอย่างที่เล่าไปตอนต้นว่าซูชิเป็นทั้งอาหารและศิลป์ญี่ปุ่นด้วย การปั้นก็มีเทคนิค พ่อครัวถือว่าซูชิที่เค้าทำเป็นงานศิลป์เลยล่ะครับ ถ้าต้องการทานปลาดิบอย่างเดียวสั่ง Sashimi(刺身) มาทานดีกว่าครับ

และสำหรับคนญี่ปุ่นการไปทานซูชิแล้วดูพ่อครัวปั้นซูชิไปด้วย รู้สึกเหมือนเข้าโรงละครดูการแสดงละครครับ บันเทิงเริงรมย์ดีครับ เคยมีพนักงานที่ทำงานเครียดโพสต์กระทู้ถามว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตดี ก็มีคนมาให้ความเห็นว่า ให้ไปทานซูชิคนเดียวแล้วนั่งดูพ่อครัวปั้นซูชิ ดูพ่อครัวพูด และดูโต๊ะนั้นโต๊ะนี้แล้วจะรู้สึกว่าได้เรียนรู้โลกในมุมอื่นๆ ดีด้วย เพื่อนๆ ลองทานซูชิดูนะครับถ้าใครอยากชวนผมไปเป็นเพื่อนก็บอกมาได้นะครับ วันนี้สวัสดีครับ ^ - ^

**********

สวัสดีครับ ผม Mr.Leon หนุ่มญี่ปุ่นหน้าอ่อนหัวใจหลั่นล้าร่ำเรียนด้านรัฐศาสตร์จาก ม.วาเซดะ แต่หลงเสน่ห์วัดวาชอบภูผาชอบทะเลไทย อยากชวนเพื่อนๆ มาร่วมวงเฮฮาแอบดูญี่ปุ่น รู้จักญี่ปุ่นหลากหลายมุมมองกับคอลัมน์ใหม่ Marunouchi cafe(ชื่อสถานที่ อยู่ในย่านธุรกิจแถวสถานีโตเกียว ให้อารมณ์ทำนองจิบกาแฟพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ) และ บางสัปดาห์ก็จะมี คุณ Gekko ภรรยาสาวไทยของผม ที่มีโอกาสไปใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านต่างแดนอยู่หลายปี มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วย ใครอยากรู้อะไรก็ถามไถ่กันมาได้นะครับ แล้วพบกันทุกวันเสาร์ครับ!
กำลังโหลดความคิดเห็น