สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว คราวที่แล้วผมเล่าถึงของฝากขึ้นชื่อของ จังหวัดโทยามาซึ่งก็คือ Masu no sushi(ますのすし) พูดถึงซูชิแล้ววันนี้ผมจึงจะนำเสนอเกร็ดที่น่าสนใจเมื่อเราไปทานซูชิที่ร้านครับ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์สำหรับทุกคน
ท่านที่เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ผมอยากแนะนำให้ลองทานซูชิด้วยครับ เพราะต้นตำหรับซูชิที่ญี่ปุ่นอร่อยมาก ซูชิถือเป็นอาหารดั้งเดิมที่มีมาช้านานอยู่คู่กับญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยที่ยังปิดประเทศ จนถึงยุคปัจจุบันที่เริ่มพัฒนาเข้าสู่ความเป็นสากลมากขึ้นมีการติดต่อกันแพร่หลายกับนานาประเทศ คนรุ่นก่อนๆ และคนรุ่นใหม่ๆ คือรอยต่อระหว่างยุคสมัย ญี่ปุ่นยังคงรักษารากดั้งเดิมขนบธรรมเนียมแบบเดิมยังคงหลงเหลือสืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ว่านี้รวมไปถึงเรื่องมารยาทข้อควรรู้ควรปฏิบัติในการทานซูชิ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างคนรุ่นใหม่ๆ และชาวต่างประเทศได้
ซูชิเป็นอาหารที่มีความเฉพาะ และแสดงถึงความเป็นญี่ปุ่นแท้จริง มีร้านซูชิดั้งเดิมบางแห่งยังค่อนข้างยึดกับหลักการมารยาทการทานซูชิแบบญี่ปุ่น เคยมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาทานแล้วอาจจะไปทำวีรกรรมอะไรไม่ดีไว้จนทำให้ร้านซูชิดั้งเดิมบางแห่งเหล่านั้นปฏิเสธที่จะรับลูกค้าที่ไม่ทราบมารยาทการทานซูชิเลยทีเดียว ผมจึงอยากเสนอเกร็ดแนะนำเกี่ยวกับข้อที่ไม่ควรทำเมื่อไปทานซูชิครับ
ถ้าท่านไปร้านซูชิที่ญี่ปุ่นโดยที่ไม่มีเพื่อนหรือคนญี่ปุ่นพาไป แนะนำให้ลองทานซูชิตามร้านที่มีลักษณะสายพานหมุนๆ วนๆ หรือเรียกว่า Kaiten Sushi ที่เมืองไทยก็มีหลายร้านเพื่อนๆ น่าจะนึกภาพออกนะครับ พ่อครัวจะปั้นซูชิหน้าต่างๆ ใส่จาน แล้ววางบนสายพานให้หมุนรอบๆ ตามแนวโต๊ะของลูกค้า เพื่อให้เราเลือกหยิบทานได้ตามใจและรวดเร็ว ลักษณะซูชิสายพานแบบนี้จะง่ายสำหรับลูกค้าด้วยครับเพราะถ้าติดขัดทางภาษาเราก็แค่เลือกหยิบซูชิจากสายพานตามรายการที่เราอยากทาน และร้านแบบสายพานจะไม่มีข้อพึงปฏิบัติอะไรมากนัก ไม่ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษมากเท่าร้านซูชิดั้งเดิมหรือซูชิที่ต้องสั่งตามเมนู
อย่างไรก็ตามร้านลักษณะสายพานแบบนี้ก็พอมีข้อควรระวังอยู่บ้าง เพื่อนๆ ลองอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วทายกันครับว่าข้อไหนทำได้และข้อไหนไม่ควรทำ
1. ในขณะที่บนสายพานมีซูชิชนิดเดียวกันอยู่หลายจานแล้ว ขอสั่งซูชิชนิดนั้นเฉพาะสำหรับโต๊ะของตนเองอีก........!?
2.หยิบจานซูชิที่ต้องการออกมาจากสายพานแล้วเอากลับเข้าไปวางในสายพานอีก..........!?
3. พูดทำนองว่าร้านนั้นอร่อยหรือดีกว่าร้านที่ทาน...........!?
4. สั่งพ่อครัวเป็นพิเศษว่ากรุณาอย่าใส่วาซาบิ............!?
5. สั่งให้พ่อครัวปั้นข้าวให้น้อยกว่าซูชิที่ทำปกติ..........!?
เพื่อนๆ ตอบว่าอย่างไรบ้างครับ มาดูเฉลยกันเลย วิธีการตรวจคะแนนคือ ดูหน้าตกใจของสัญลักษณ์การ์ตูนซึ่งจะเท่ากับคะแนนติดลบ ถ้าข้อไหนมีหน้าการ์ตูนเยอะก็ยิ่งได้คะแนนติดลบมาก ซึ่งหมายถึงยิ่งไม่ควรปฏิบัติครับ
(゚Д゚)= -20 คะแนน แปลว่า (ยิ่งสัญลักษณ์นี้เยอะยิ่งไม่ควรทำ)
( 屮 ´ ∀ ` )屮 = 0 แปลว่า ไม่ดีแต่ก็ไม่แย่อะไรจนเกินไป
_______________________________________________________
答え คำตอบของแต่ละข้อคือ
1.(゚Д゚) (゚Д゚)
2.(゚Д゚) (゚Д゚) (゚Д゚)
3.ヽ(`Д´)ノヽ(`Д´)ノヽ(`Д´)ノヽ(`Д´)ノヽ(`Д´)ノ(ノ#`Д´)ノ⌒┻━┻
4.( 屮 ´ ∀ ` )屮 <喜んで! Welcome!
5. Σ(´ ∀` ; ) 三( つ´ ∀ ` )つ旦 Case by Case...
สรุปครับว่าข้อ 1 และข้อ 2 ก็ไม่ควรทำ แต่ข้อที่ไม่ควรทำมากที่สุดก็คือข้อที่ 3 คือไม่ควรพูดถึงร้านอื่นว่าดีกว่าหรืออร่อยกว่า (พูดในที่นี้คือการพูดด้วยเสียงดังจนโต๊ะอื่นๆ หรือพ่อครัวได้ยิน) เพราะการที่จะได้เป็นพ่อครัวซูชิได้ต้องมีการเรียนงานและสั่งสมประสบการณ์หลายปีถึงหลายสิบปี ดังนั้นเค้าจะค่อนข้างภูมิใจในอาชีพและการทำงานมาก เราเองก็ควรให้เกียรติในอาชีพเขาเช่นกันครับ เพื่อนๆ อ่านเกร็ดกว่าจะมาเป็นพ่อครัวมือหนึ่งได้จากเรื่องโซบะที่ลิงค์นี้ครับ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงรัก "โซบะ"? การที่เราพูดลักษณะว่าร้านนั้นดีกว่าร้านนู้นอร่อยกว่า อาจทำให้โต๊ะข้างๆ ได้ยิน หรือพ่อครัวได้ยิน จะรู้สึกไม่ดีด้วยครับ
ข้อ 4 (สั่งพ่อครัวเป็นพิเศษว่ากรุณาอย่าใส่วาซาบิ)ทำได้ ไม่เป็นไร ส่วนข้อ 5 (สั่งให้พ่อครัวปั้นข้าวให้น้อยกว่าซูชิที่ทำปกติ) ควรทำหรือไม่ควรทำนั้นแล้วแต่กรณี หรือ Case by Case คือบางครั้งเราอาจขอให้ลดปริมาณข้าวได้ แต่อาทิตย์หน้าผมจะเล่าพร้อมกับการสั่งซูชิแบบร้านดั้งเดิมนะครับเรื่องมันยาว ไม่ใช่เฉพาะซูชิแบบสายพานเท่านั้นแต่สำหรับมารยาทในการเข้าร้านซูชิดั้งเดิม(แบบสั่งเฉพาะมาทาน) ด้วย มีสิ่งควรทำและไม่ควรทำหลายข้อ แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังต่อครับ
ปล. ที่ร้านซูชิสายพานส่วนใหญ่จะมีถุงชาและมีก๊อกน้ำร้อนให้เรารินชาเองด้วย ระวังน้ำร้อนลวกมือด้วยนะครับ ( ´・ω・)⊃旦
**********
สวัสดีครับ ผม Mr.Leon หนุ่มญี่ปุ่นหน้าอ่อนหัวใจหลั่นล้าร่ำเรียนด้านรัฐศาสตร์จาก ม.วาเซดะ แต่หลงเสน่ห์วัดวาชอบภูผาชอบทะเลไทย อยากชวนเพื่อนๆ มาร่วมวงเฮฮาแอบดูญี่ปุ่น รู้จักญี่ปุ่นหลากหลายมุมมองกับคอลัมน์ใหม่ Marunouchi cafe(ชื่อสถานที่ อยู่ในย่านธุรกิจแถวสถานีโตเกียว ให้อารมณ์ทำนองจิบกาแฟพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ) และ บางสัปดาห์ก็จะมี คุณ Gekko ภรรยาสาวไทยของผม ที่มีโอกาสไปใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านต่างแดนอยู่หลายปี มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วย ใครอยากรู้อะไรก็ถามไถ่กันมาได้นะครับ แล้วพบกันทุกวันเสาร์ครับ!