สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้วครับ คราวที่แล้วผมเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่น่ารู้และเคล็ดลับเพื่อจะได้นำไปปฏิบัติหากมีคนญี่ปุ่นชวนไปทานข้าว ครั้งนี้เป็นเกร็ดเล็กน้อยที่มีรายละเอียดปลีกย่อยขึ้นไปอีกนิดหน่อย เผื่อให้เพื่อนๆ อ่านเป็นแนวทาง จะได้รู้จักและเข้าใจมุมมองคนญี่ปุ่นครับ
กรณีที่เพื่อนคนญี่ปุ่นที่อายุอานามรุ่นเดียวกัน หรือนักเรียนนักศึกษาทั่วไป หรือคนสนิทที่รู้จักกันมานานแล้วอาจค่อยไม่มีปัญหาที่จะต้องมาคอยเอาใจใส่เรื่องมารยาทยิบย่อยมากนัก แต่ถ้าเป็นหัวหน้างานในบริษัทหรือรุ่นพี่ในบริษัทญี่ปุ่น มีจุดที่ต้องระมัดระวังนิดหน่อยครับ ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ นะครับ ซึ่งผมคิดว่าเพื่อนน่าจะเคยมีเพื่อนชาวญี่ปุ่น หรือทำงานกับคนญี่ปุ่นอยู่บ้าง อาจเคยไปทานข้าวแล้วเห็นพฤติกรรมระหว่างคนญี่ปุ่นแล้วตกใจบ้าง
เพื่อนๆ บางคนที่ทำงานบริษัทญี่ปุ่นอยู่อาจจะสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ดีทำงานทั่วไปได้ดีมาก แต่ทำไมบริษัทญี่ปุ่นยังต้องการพนักงานขายที่เป็นคนญี่ปุ่นมาทำงานด้วยล่ะครับ ก็เพราะเอาไว้คอนต้อนรับและพาลูกค้าไปทานอาหาร ไปเลี้ยงคาราโอเกะ คนที่สามารถเข้าใจถึงมารยาทยิบย่อย และสิ่งที่ควรปฏิบัติกับคนญี่ปุ่นนั่นเองครับ
ผมอ่านเจอข่าวจากเว็บไซต์ globe.asahi.com มีหนุ่มญี่ปุ่นสองคนเล่าว่าไปหางานทำในบริษัทซึ่งมีคนญี่ปุ่นอีกหลายๆ คนที่สมัครงานเดียวกัน คำถามส่วนใหญ่ที่ถูกถามจะเป็นคำถามลักษณะนี้ครับ
1. สมัยเรียนเล่นกีฬาอะไรไหม อย่างไร
2. พูดเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ เพลงที่ควรร้องเมื่อไปคาราโอเกะ
3. มีความมั่นใจในสมรรถภาพพละกำลังตัวเองไหม
ซึ่งตัวอย่างคำถามสามข้อข้างบนนี้อาจจะแปลกๆ แต่จริงๆ แล้วทางบริษัทต้องการคนที่เป็น sport man หรือเรียกง่ายๆ ว่า “อึด” และมีวินัยแบบทหาร บริษัทญี่ปุ่นต้องการคนที่มีทั้งพลังใจและกำลังกายที่จะทุ่มเทให้บริษัทอย่างหนักนั่นเอง
สรุปว่าไม่ว่าจะเรียนจบคณะอะไรที่ไหน อาจจะไม่สำคัญเท่าคุณมีพลังกายพลังใจในการทุ่มเทให้กับองค์กร ดื่มและเข้าคาราโอเกะได้ทน แม้ว่าต้องทำโอทีและกินเวลาส่วนอื่นๆ ในชีวิตไปคุณจะทำได้ดีหรือไม่? นี่แหละครับและเมื่อได้เข้าไปทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังต้องเรียนรู้ขนบธรรมเนียมการปฏิบัติในบริษัทอีก
มีนักข่าวชาวเนเธอเเลนด์ท่านหนึ่งทำงานที่ญี่ปุ่นมานาน เขียนเชิงล้อเลียนคนญี่ปุ่นว่า ถ้าอยากเป็นใหญ่เป็นโตในบริษัทญี่ปุ่น ต้องเป็นคนที่มีตับที่แข็งแรง ความหมายคือคนนั้นต้องดื่มเหล้าดื่มเบียร์เก่งๆ ดื่มเหล้าเพื่องานนั่นเอง
เอาละครับต่อไปผมขอเล่ามารยาทเล็กน้อยในการรินเบียร์ การกินเบียร์กัลหัวหน้าสักนิดหน่อยครับ
เมื่อเพื่อนๆ ต้องไปดื่มสาเกหรือเบียร์กับหัวหน้า ควรให้หัวหน้าเลือกชนิดของเครื่องดื่มก่อน ปกติมักจะสั่งเบียร์ครับ ซึ่งคนในกลุ่มก็ควรสั่งแบบเดียวกับหัวหน้า (ในการสั่งเครื่องดื่มรอบแรกควรสั่งแบบเดียวกับหัวหน้า แต่ถ้าสั่งรอบต่อไปแล้วแต่ได้) ไม่ควรสั่งของที่แพงกว่าอย่างยิ่งเลย เช่น ถ้าหัวหน้าสั่งเบียร์สด คุณก็สั่งเบียร์สดด้วย ห้ามสั่งวิสกี้ ไวน์ หรือสาเกแพงๆ เด็ดขาดนะครับ แต่ถ้ามีคนที่ดื่มเบียร์ไม่ได้ ก็เลือกสั่งชาอูหลงได้อยู่ครับ
เมื่อเครื่องดื่มมาแล้วควรรอให้ได้ครบทุกคนก่อนครับ แล้วยกชนแก้วและพูดพร้อมกันว่า Kanpai!( 乾杯!) แล้วดื่มพร้อมกันครับ
ต่อไปมีคำถามครับ
คำถาม: โดยปกติผู้น้อยต้องคอยเสิร์ฟเครื่องดื่มให้หัวหน้า หรือรินเบียร์นั่นเอง ต้องคอยสังเกตว่าเบียร์ในแก้วหัวหน้าจะหมดหรือยัง ทว่าขณะที่สังเกตเห็นว่าควรเติมเบียร์ให้หัวหน้าได้แล้วแต่เบียร์มันเหลือแค่ก้นขวด คุณจะทำอย่างไรครับ
1. ทำเฉยๆ ปล่อยไป
2. พูดว่าขอโทษครับแล้วบอกว่าจะรีบสั่งเพิ่ม
3. เติมเท่าที่เหลือก้นขวดนั่นแหละแล้วบอกว่าเบียร์ส่วนที่อร่อยที่สุดครับ
4. ต่อว่าพนักงานว่าเบียร์จะหมดแล้วทำไมไม่เอามาให้
เพื่อนๆ ตอบข้อไหนครับ ผมให้คะแนนคนตอบข้อ1. 20 คะแนนครับ เพราะมีบางคนเห็นว่าเบียร์ในแก้วของหัวหน้าจะหมด แก้วเราเบียร์ก็จะหมด แล้วเบียร์ในขวดเหลืออีกนิดเดียวบางทีต่างคนต่างคิดว่าเกรงใจเลยอยู่เฉยๆ อันที่จริงไม่ค่อยดีเท่าไรแต่ก็ยังดีกว่าข้อ 4. ที่ได้0 คะแนนนะครับเพราะทำให้บรรยากาศการดื่มแย่ลง ส่วนใครตอบข้อ 2. ก็ไม่ถึงกับผิดครับ แต่ถ้าให้ดีที่สุดคือข้อ 3. ครับรีบยกเบียร์รินให้หัวหน้าก่อนเลยครับแต่ต้องพูดด้วยประมาณว่า “เบียร์ส่วนนี้อร่อยที่สุดครับ” (อันที่จริงมันอาจจะไม่ใช่ส่วนที่อร่อยที่สุดก็ได้ แต่พูดเพื่อให้เกียรติหัวหน้านั่นเองครับ) แล้วระหว่างนั่นก็ทำสัญลักษณ์ให้พนักงานรู้ว่าขอสั่งเบียร์เพิ่มโดยไม่ต้องออกเสียงดัง
สำหรับการรินเบียร์ก็ควรวางมือให้ถูกด้วยครับโดยให้ป้ายชื่อเบียร์อยู่ด้านบนที่สามารถมองเห็นได้ เอามือซ้ายวางใต้บริเวณคอขวดเบียร์ ส่วนมือขวาจับตำแหน่งขวดเบียร์ ตามรูปครับ
นี่แค่คร่าวๆ นะครับผมไม่รู้ว่าคนญี่ปุ่นเขาจำกันได้อย่างไร เพราะผมนั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียวไม่ต้องมีมารยาทอะไรมากมายครับ(ยิ้ม)
**********
สวัสดีครับ ผม Mr.Leon หนุ่มญี่ปุ่นหน้าอ่อนหัวใจหลั่นล้าร่ำเรียนด้านรัฐศาสตร์จาก ม.วาเซดะ แต่หลงเสน่ห์วัดวาชอบภูผาชอบทะเลไทย อยากชวนเพื่อนๆ มาร่วมวงเฮฮาแอบดูญี่ปุ่น รู้จักญี่ปุ่นหลากหลายมุมมองกับคอลัมน์ใหม่ Marunouchi cafe(ชื่อสถานที่ อยู่ในย่านธุรกิจแถวสถานีโตเกียว ให้อารมณ์ทำนองจิบกาแฟพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ) และ บางสัปดาห์ก็จะมี คุณ Gekko ภรรยาสาวไทยของผม ที่มีโอกาสไปใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านต่างแดนอยู่หลายปี มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วย ใครอยากรู้อะไรก็ถามไถ่กันมาได้นะครับ แล้วพบกันทุกวันเสาร์ครับ!
กรณีที่เพื่อนคนญี่ปุ่นที่อายุอานามรุ่นเดียวกัน หรือนักเรียนนักศึกษาทั่วไป หรือคนสนิทที่รู้จักกันมานานแล้วอาจค่อยไม่มีปัญหาที่จะต้องมาคอยเอาใจใส่เรื่องมารยาทยิบย่อยมากนัก แต่ถ้าเป็นหัวหน้างานในบริษัทหรือรุ่นพี่ในบริษัทญี่ปุ่น มีจุดที่ต้องระมัดระวังนิดหน่อยครับ ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ นะครับ ซึ่งผมคิดว่าเพื่อนน่าจะเคยมีเพื่อนชาวญี่ปุ่น หรือทำงานกับคนญี่ปุ่นอยู่บ้าง อาจเคยไปทานข้าวแล้วเห็นพฤติกรรมระหว่างคนญี่ปุ่นแล้วตกใจบ้าง
เพื่อนๆ บางคนที่ทำงานบริษัทญี่ปุ่นอยู่อาจจะสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ดีทำงานทั่วไปได้ดีมาก แต่ทำไมบริษัทญี่ปุ่นยังต้องการพนักงานขายที่เป็นคนญี่ปุ่นมาทำงานด้วยล่ะครับ ก็เพราะเอาไว้คอนต้อนรับและพาลูกค้าไปทานอาหาร ไปเลี้ยงคาราโอเกะ คนที่สามารถเข้าใจถึงมารยาทยิบย่อย และสิ่งที่ควรปฏิบัติกับคนญี่ปุ่นนั่นเองครับ
ผมอ่านเจอข่าวจากเว็บไซต์ globe.asahi.com มีหนุ่มญี่ปุ่นสองคนเล่าว่าไปหางานทำในบริษัทซึ่งมีคนญี่ปุ่นอีกหลายๆ คนที่สมัครงานเดียวกัน คำถามส่วนใหญ่ที่ถูกถามจะเป็นคำถามลักษณะนี้ครับ
1. สมัยเรียนเล่นกีฬาอะไรไหม อย่างไร
2. พูดเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ เพลงที่ควรร้องเมื่อไปคาราโอเกะ
3. มีความมั่นใจในสมรรถภาพพละกำลังตัวเองไหม
ซึ่งตัวอย่างคำถามสามข้อข้างบนนี้อาจจะแปลกๆ แต่จริงๆ แล้วทางบริษัทต้องการคนที่เป็น sport man หรือเรียกง่ายๆ ว่า “อึด” และมีวินัยแบบทหาร บริษัทญี่ปุ่นต้องการคนที่มีทั้งพลังใจและกำลังกายที่จะทุ่มเทให้บริษัทอย่างหนักนั่นเอง
สรุปว่าไม่ว่าจะเรียนจบคณะอะไรที่ไหน อาจจะไม่สำคัญเท่าคุณมีพลังกายพลังใจในการทุ่มเทให้กับองค์กร ดื่มและเข้าคาราโอเกะได้ทน แม้ว่าต้องทำโอทีและกินเวลาส่วนอื่นๆ ในชีวิตไปคุณจะทำได้ดีหรือไม่? นี่แหละครับและเมื่อได้เข้าไปทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังต้องเรียนรู้ขนบธรรมเนียมการปฏิบัติในบริษัทอีก
มีนักข่าวชาวเนเธอเเลนด์ท่านหนึ่งทำงานที่ญี่ปุ่นมานาน เขียนเชิงล้อเลียนคนญี่ปุ่นว่า ถ้าอยากเป็นใหญ่เป็นโตในบริษัทญี่ปุ่น ต้องเป็นคนที่มีตับที่แข็งแรง ความหมายคือคนนั้นต้องดื่มเหล้าดื่มเบียร์เก่งๆ ดื่มเหล้าเพื่องานนั่นเอง
เอาละครับต่อไปผมขอเล่ามารยาทเล็กน้อยในการรินเบียร์ การกินเบียร์กัลหัวหน้าสักนิดหน่อยครับ
เมื่อเพื่อนๆ ต้องไปดื่มสาเกหรือเบียร์กับหัวหน้า ควรให้หัวหน้าเลือกชนิดของเครื่องดื่มก่อน ปกติมักจะสั่งเบียร์ครับ ซึ่งคนในกลุ่มก็ควรสั่งแบบเดียวกับหัวหน้า (ในการสั่งเครื่องดื่มรอบแรกควรสั่งแบบเดียวกับหัวหน้า แต่ถ้าสั่งรอบต่อไปแล้วแต่ได้) ไม่ควรสั่งของที่แพงกว่าอย่างยิ่งเลย เช่น ถ้าหัวหน้าสั่งเบียร์สด คุณก็สั่งเบียร์สดด้วย ห้ามสั่งวิสกี้ ไวน์ หรือสาเกแพงๆ เด็ดขาดนะครับ แต่ถ้ามีคนที่ดื่มเบียร์ไม่ได้ ก็เลือกสั่งชาอูหลงได้อยู่ครับ
เมื่อเครื่องดื่มมาแล้วควรรอให้ได้ครบทุกคนก่อนครับ แล้วยกชนแก้วและพูดพร้อมกันว่า Kanpai!( 乾杯!) แล้วดื่มพร้อมกันครับ
ต่อไปมีคำถามครับ
คำถาม: โดยปกติผู้น้อยต้องคอยเสิร์ฟเครื่องดื่มให้หัวหน้า หรือรินเบียร์นั่นเอง ต้องคอยสังเกตว่าเบียร์ในแก้วหัวหน้าจะหมดหรือยัง ทว่าขณะที่สังเกตเห็นว่าควรเติมเบียร์ให้หัวหน้าได้แล้วแต่เบียร์มันเหลือแค่ก้นขวด คุณจะทำอย่างไรครับ
1. ทำเฉยๆ ปล่อยไป
2. พูดว่าขอโทษครับแล้วบอกว่าจะรีบสั่งเพิ่ม
3. เติมเท่าที่เหลือก้นขวดนั่นแหละแล้วบอกว่าเบียร์ส่วนที่อร่อยที่สุดครับ
4. ต่อว่าพนักงานว่าเบียร์จะหมดแล้วทำไมไม่เอามาให้
เพื่อนๆ ตอบข้อไหนครับ ผมให้คะแนนคนตอบข้อ1. 20 คะแนนครับ เพราะมีบางคนเห็นว่าเบียร์ในแก้วของหัวหน้าจะหมด แก้วเราเบียร์ก็จะหมด แล้วเบียร์ในขวดเหลืออีกนิดเดียวบางทีต่างคนต่างคิดว่าเกรงใจเลยอยู่เฉยๆ อันที่จริงไม่ค่อยดีเท่าไรแต่ก็ยังดีกว่าข้อ 4. ที่ได้0 คะแนนนะครับเพราะทำให้บรรยากาศการดื่มแย่ลง ส่วนใครตอบข้อ 2. ก็ไม่ถึงกับผิดครับ แต่ถ้าให้ดีที่สุดคือข้อ 3. ครับรีบยกเบียร์รินให้หัวหน้าก่อนเลยครับแต่ต้องพูดด้วยประมาณว่า “เบียร์ส่วนนี้อร่อยที่สุดครับ” (อันที่จริงมันอาจจะไม่ใช่ส่วนที่อร่อยที่สุดก็ได้ แต่พูดเพื่อให้เกียรติหัวหน้านั่นเองครับ) แล้วระหว่างนั่นก็ทำสัญลักษณ์ให้พนักงานรู้ว่าขอสั่งเบียร์เพิ่มโดยไม่ต้องออกเสียงดัง
สำหรับการรินเบียร์ก็ควรวางมือให้ถูกด้วยครับโดยให้ป้ายชื่อเบียร์อยู่ด้านบนที่สามารถมองเห็นได้ เอามือซ้ายวางใต้บริเวณคอขวดเบียร์ ส่วนมือขวาจับตำแหน่งขวดเบียร์ ตามรูปครับ
นี่แค่คร่าวๆ นะครับผมไม่รู้ว่าคนญี่ปุ่นเขาจำกันได้อย่างไร เพราะผมนั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียวไม่ต้องมีมารยาทอะไรมากมายครับ(ยิ้ม)
**********
สวัสดีครับ ผม Mr.Leon หนุ่มญี่ปุ่นหน้าอ่อนหัวใจหลั่นล้าร่ำเรียนด้านรัฐศาสตร์จาก ม.วาเซดะ แต่หลงเสน่ห์วัดวาชอบภูผาชอบทะเลไทย อยากชวนเพื่อนๆ มาร่วมวงเฮฮาแอบดูญี่ปุ่น รู้จักญี่ปุ่นหลากหลายมุมมองกับคอลัมน์ใหม่ Marunouchi cafe(ชื่อสถานที่ อยู่ในย่านธุรกิจแถวสถานีโตเกียว ให้อารมณ์ทำนองจิบกาแฟพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ) และ บางสัปดาห์ก็จะมี คุณ Gekko ภรรยาสาวไทยของผม ที่มีโอกาสไปใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านต่างแดนอยู่หลายปี มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วย ใครอยากรู้อะไรก็ถามไถ่กันมาได้นะครับ แล้วพบกันทุกวันเสาร์ครับ!