การเมืองญี่ปุ่นเดือด หลังรัฐบาลผ่านกฎหมายขยายบทบาทกองทัพ

การเมืองญี่ปุ่นร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลเสนอแก้ไขกฎหมายเพิ่มบทบาทกองกำลังป้องกันตนเอง ซึ่งมีทั้งเสียงคัดค้านและสนับสนุนจากประชาชนชาวญี่ปุ่นอย่างกว้างขวาง

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะแห่งญี่ปุ่น มีมติในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคมให้เสนอต่อรัฐสภาเพื่อแก้ไขกฎหมายจัดตั้งกระทรวงการป้องกันประเทศ ซี่งนับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นถูกจำกัดสิทธิ์การมีกองทัพ โดยกำหนดให้มีเพียงกองกำลังป้องกันตนเองเท่านั้น

ร่างกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล มีหลายประเด็นที่จะเปิดทางให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นมีบทบาทมากขึ้น เช่น สามารถเคลื่อนย้ายกองกำลังป้องกันตนเองและใช้กำลังทางทหารได้ หากประเทศพันธมิตรของญี่ปุ่นถูกโจมตีด้วยอาวุธ และมีอันตรายชัดเจนที่คุกคามความอยู่รอดของญี่ปุ่น ชีวิตประชาชน เสรีภาพ และความสงบสุขของญี่ปุ่น ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายเดิมที่ระบุว่า กองกำลังของญี่ปุ่นสามารถใช้กำลังได้ในกรณีที่ประเทศญี่ปุ่นถูกโจมตีด้วยอาวุธเท่านั้น

ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขยังอนุญาตให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น สามารถเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารในต่างแดนได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานของกระทรวงการป้องกันประเทศ โดยเพิ่มอำนาจนายทหารให้เท่าเทียมกับเจ้าหน้าที่พลเรือน ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเรื่องการควบคุมกองกำลังของญี่ปุ่นโดยพลเรือน ที่ยึดถือปฏิบัติกันมานาน

ทั้งนี้ กฎหมายฉบับปัจจุบันบัญญัติให้อำนาจของเจ้าหน้าที่พลเรือนมากกว่าฝ่ายทหาร แต่ร่างแก้ไขกฎหมายฉบับแก้ไขจะจัดตั้ง "คณะเสนาธิการร่วม" เพื่อรับผิดชอบปฏิบัติการทางยุทธวิธีของกองกำลังป้องกันตนเอง โดยให้นายทหารระดับอาวุโสมีอำนาจเท่าเทียมกับเจ้าหน้าที่พลเรือนระดับสูง เพื่อช่วยเหลือรัฐมนตรีกระทรวงการป้องกันประเทศ

นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ถึงแม้นายทหารจะมีบทบาทมากขึ้นในกระทรวงการป้องกันประเทศ แต่นายกรัฐมนตรีจะมีบทบาทเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ซึ่งเป็นหลักประกันว่าพลเรือนเป็นผู้ควบคุมกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น

การแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายบทบาทของกองทัพญี่ปุ่น ได้รับทั้งเสียงสนับสนุนและคัดค้านจากประชาชน โดยในระหว่างการอภิปรายในรัฐสภาได้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งชุมนุมประท้วง โดยประกาศว่า การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นชาติที่สามารถก่อสงครามได้ กลุ่มผู้ประท้วงยังอ้างว่าขอบข่ายกิจกรรมของกองกำลังป้องกันตนเองที่ขยายออกไปขัดต่อมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งระบุว่าญี่ปุ่นสละสิทธิ์ในการทำสงครามเพื่อแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ
 
การขยายบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ยังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งโจมตีนายชินโซ อะเบะ ว่ากำลังปูทางไปสู่การฟื้นฟูกองทัพญี่ปุ่น และไม่ยอมสำนึกผิดที่ญี่ปุ่นเคยรุกรานเพื่อนบ้านในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2.