เอเอฟพี - ยูโกะ โอบุชิ นักการเมืองหญิงที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จนอาจมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นในอนาคต กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวันนี้ (16 ต.ค.) จากกรณีที่มารายงานว่า เธอได้ใช้เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนทางการเมืองไปกับเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นการโจมตีบุคคลซึ่งกำลังเป็นที่จับตามองมากที่สุดในกลุ่มรัฐมนตรีหญิงคลื่นลูกใหม่
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้แต่งตั้งโอบุชิ คุณแม่ลูกสอง ให้เป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมหญิงคนแรกของแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเป็นตำแหน่งทรงอิทธิพลที่ควบหน้าที่กำกับดูแลภาคพลังงาน
“ไมนิชิ ชิมบุน” หนังสือพิมพ์หัวกลางซ้ายฉบับวันนี้ (16) รายงานว่า ในช่วง 5 ปีจนกระทั่งปี 2012 องค์กรระดมทุนเพื่อสนับสนุนทางการเมืองของเธอได้ทุ่มเงินกว่า 10 ล้านเยน (ราว 3 ล้านบาท) ไปกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เช่น เครื่องสำอาง และเครื่องประดับในห้างสรรพสินค้า
ไมนิชิ ชิมบุน รายงานโดยอ้างถึงใบเสร็จที่ได้รับว่า องค์กรนี้ยังได้ทุ่มเงิน 3.62 ล้านเยน (ราว 1.1 ล้านบาท) ให้ร้านเสื้อผ้าที่น้องเขยของเธอเป็นผู้บริหารกิจการ
นอกจากนี้ รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์เจ้าอื่นๆ ระบุว่า องค์กรของโอบุชิ อีกแห่งได้ใช้เงินราว 26 ล้านเยน (ราว 7.9 ล้านบาท) ซื้อตั๋วโรงละครแจกเหล่าผู้สนับสนุนพรรค
กฎการระดมทุนเพื่อสนับสนุนทางการเมืองในญี่ปุ่นนั้นไม่ได้กำหนดข้อห้ามอะไรมากนัก นอกจากการติดสินบนอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนี้ โดยส่วนใหญ่แล้ว กฎระเบียบดังกล่าว มักถูกนำไปตีความเพื่อเปิดทางให้มีการใช้จ่าย และการบริหารกิจการร้านค้า และการส่งเสริมเอกชนกัน
กระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีการใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ และโดยปกติจะถูกมองเป็นเพียงละครคั่นฉาก ในโลกการเมืองญี่ปุ่นที่นักการเมืองถือตนเป็นใหญ่ แม้ว่าบางครั้งกรณีอื้อฉาวเหล่านั้นจะกลายเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางก็ตาม
วันนี้ (16) โอบุชิ กล่าวกับคณะกรรมาธิการว่าด้วยเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของรัฐสภาว่า เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัว กับการใช้จ่ายใดๆ ที่กลายเป็นที่กังขาในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม เธอชี้ว่า “ดิฉันเชื่อว่า การใช้จ่ายเช่นนี้มีความจำเป็นต่อกิจกรรมทางการเมืองของดิฉัน” ขณะที่ให้คำมั่นว่า จะตรวจสอบข้อกล่าวอ้างที่ว่า มีการนำเงินทุนไปซื้อตั๋วโรงละคร
นักการเมืองวัย 40 ปีซึ่งเป็นลูกสาวอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ คือผู้หญิงที่ดำรงตำแหน่งสูงที่สุด จากสตรีทั้ง 5 คนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะรัฐมนตรี ในช่วงที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ คำสั่งแต่งตั้งโอบุชิเป็นรัฐมนตรีถูกมองว่า เป็นความพยายามของอาเบะ ในการสนับสนุนผู้หญิง ในช่วงที่มีกระแสการรณรงค์ให้สตรีมีส่วนร่วมในตำแหน่งหน้าที่ระดับสูง