ส่วนญาติหรือบริวารที่อยู่อาศัยในบ้านหรือโรงเรือนดังกล่าว รู้ หรือควรรู้ในเรื่องดังกล่าวกลับไม่ห้ามปราม การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนต่อการรักษาป่าและสิ่งแวดล้อม
.
จึงเป็นการฝ่าฝืนหรือผิดเงื่อนไข ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิ.ย.2541 ด้านป้องกัน เพราะฉะนั้น ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน หรือญาติ หรือบริวารที่อยู่ในบ้านหรือโรงเรือนทั้ง 4 หลัง จึงต้องออกจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และต้องทำลาย รื้อถอนบ้านหรือ โรงเรือนทั้ง 4 หลัง ออกไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.2541 ด้านป้องกัน ที่ได้บัญญัติไว้
.
จึงติดประกาศคำสั่งให้ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน หรือญาติหรือบริวารที่อยู่ในบ้าน หรือโรงเรือนทั้ง 4 หลังต้องออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และต้องรื้อถอนบ้าน หรือโรงเรือน ไปให้พ้นในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ภายใน 30 วัน นับแต่วันนี้ (18 ม.ค.)
.
ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (1) ฐาน ยึดถือครอบครองที่ดินภายในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
ซึ่งกรณีดังกล่าวศาลฎีกาได้เคยมีคำพิพากษา วางแนวเป็นบรรทัดฐานไว้ว่า บุคคลใดถึงแม้อ้างว่ามาอยู่ก่อนหรืออยู่หลังประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ หากมิได้มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองโดยชอบกฎหมายในที่ดินนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ไม่ว่าจะมาอยู่อาศัยนานเพียงใดก็ตาม เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 2480/2541