วันนี้ (25 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่จำนวน 53 ราย หายกลับบ้านเพิ่ม 57 iาย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดสะสมป่วยรวม 2,907 ราย กลับบ้านรวม 2,547 ราย เสียชีวิตรวม 51 ราย และยังรักษาใน รพ. 309 ราย โดยผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 รายนั้นเป็นชายไทยอายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันในครอบครัวที่มี 4 คนติดเชื้อมาก่อน คือ น้องชายทำงานสถานบันเทิงย่านทองหล่อ น้องสะใภ้ พ่อและแม่ โดยเริ่มป่วยวันที่ 1 เม.ย. มีไข้ ไอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ รับการตรวจ รพ.แห่งหนึ่งใน กทม. ผลตรวจปกติจึงรับยากลับไป แต่อาการไม่ดีขึ้น รักษาอีกครั้งวันที่ 12 เม.ย. ด้วยอาการไข้สูง 40 องศาเซลเซียส หายใจลำบาก ไอ จึงส่งตรวจหาเชื้อผลตรวจยืนยัน วันที่ 16 เม.ย.อาการแย่ลง แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตวันที่ 24 เม.ย. ด้วยภาวะการหายใจล้มเหลว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 53 รายมาจาก 1.สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 3 ราย 2.ไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย 3.ค้นหาเชิงรุกใน จ.ยะลา 7 ราย และ 4.ศูนย์กักขังตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา 42 ราย ซึ่งหากแยกเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ คือ 11 ราย เจอที่ยะลา 7 ราย กทม. 2 ราย ชลบุรี และภูเก็ต จังหวัดละ 1 ราย สำหรับศูนย์กักขังตรวจคนเข้าเมืองฯ นั้นเป็นแรงงานต่างด้าวทั้งหมด จำนวน 42 ราย ได้แก่ พม่า 34 ราย เวียดนาม 3 ราย มาเลเซีย 2 ราย เยเมน 1 ราย กัมพูชา 1ราย อินเดีย 1 ราย ซึ่งคนเหล่านี้มาอยู่ส่วนของเราโดยวิธีการผิดกฎหมาย และดูแลในศูนย์กักขัง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การพบในศูนย์กักขังฯ 42 ราย เกิดอะไรถึงมากมายแบบนี้ ทั้งที่เรากำลังดีใจกันอยู่ ตัวเลขกำลังกดต่ำลงมา ซึ่งตัวเลขนี้มาจากการทำค้นหาเชิงรุก มีประเด็นเรียนรู้ 5 ข้อ คือ 1.จากนโยบายของผอ.ศบค. ที่พบว่าสิงคโปร์มีแรงงานติดเชื้อ จึงให้ทำเชิงรุกติดตามกลุ่มเสี่ยงเป็นการเฉพาะและตรวจมากขึ้น 2.สอดคล้องประกาศเขตโรคติดต่ออันตรายเพิ่มขึ้นอีก 5 ประเทศท คือ มาเลเซีย ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย และพม่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย.
3.เกิดกระบวนการหาเคสมากขึ้น จนพบ 42 รายในศูนย์กักขังในพื้นที่ โดยปลัด สธ.สั่งการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ ให้ลงร่วมดูแลกันสำนักงานรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ ดูแลคนกลุ่มนี้ ซึ่งได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ร่างกายยังแข็งแรงดี อาการต่างๆ ยังไม่มาก แต่จะเอาเอกซเรย์ปอดเข้าไปเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อ สกรีนคัดกรองอาการต่างๆ แต่ละคนเป็นอย่างไร โดยเป็นแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้นไม่มีคนไทย 4.หลักการตามมนุษยธรรม เราฐานะรัฐหนึ่งดูแลคนอื่นๆ ด้วย นอกจากคนไทย ใครก็ตามแม้เข้ามาผิดกฎหมายเราก็ดูแลพวกเขา ถ้าเขาปลอดโรคเราก็ปลอดภัย 5.ขอบคุณพี่น้องสงขลาได้มีไมตรีจิตให้พื้นที่ดูแลคนต่างๆ เหล่านี้ มีชายแดนด่านสะเดา เราเพิ่งปิดด่านไปเพราะมีการติดเชื้อเจ้าหน้าที่เราด้วย จึงต้องมีการขยายผล มาเจอกันกับกลุ่มที่ติดเชื้อในศูนย์กักขัง 42 คน
"เป็นประเด็นที่เรต้องหาวิธีใหม่เชิงรุกให้เจอกับเคสผู้ป่วยยืนยันให้ได้ มุกเดิมๆ ใช้ไม่ได้แล้วอาจอยู่ตรงไหนไม่รู้ แต่อยู่ในคนแน่นอน เราต้องไปหาในกลุ่มใหม่ แน่นอนคือคนต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในระเทศของเราก็จึงต้องไปตรวจตรงนั้นมา" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว