xs
xsm
sm
md
lg

ช็อกโกแลต บำรุงสมอง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าช็อกโกแลตมีกี่ชนิด
1.Dark Chocolate (ดาร์กช็อกโกแลต) ช็อกโกแลตเข้มข้น มีส่วนประกอบของ โกโก้ลิคเคอ ไขมันโกโก้ น้ำตาล และ อาจแต่งกลิ่นวานิลา ดาร์กช็อกโกแลตมีรสเข้มข้นกว่า มิลค์ช็อกโกแลต และไวท์ช็อกโกแลต โดยปกติแล้วนิยมนำไปเป็นส่วนประกอบสำหรับทำอาหารได้
2.Milk Chocolate (มิลค์ช็อกโกแลต) ช็อกโกแลตที่มีเหมือนกับดาร์กช็อกโกแลตเพียงเพิ่มส่วนประกอบของนมเพิ่มเติม ทำให้มีรสชาติหวาน มัน และรสนุ่มลมุนลิ้นมากกว่าดาร์กช็อกโกแลต
3.White Chocolate (ช็อกโกแลตสีขาว) เป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีส่วนผสมของ โกโก้ลิคเคอ แต่มีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ น้ำตาล นม และแต่งกลิ่น อาทิเช่น วานิลา ซึ่งมีความหวานมัน มากที่สุดในบรรดาช็อกโกแลตสามชนิด

ดาร์กช็อกโกแลตคืออะไร
ดาร์กช็อกโกแลตเป็นช็อกโกแลตที่ทำจากพืช ซึ่งประกอบด้วยประโยชน์ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพจากผักสีเข้ม ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Flavonoids) เกือบ 8 เท่า เมื่อเทียบกับสารต้านอนุมูลอิสระในผลสตอร์เบอร์รี่ ช่วยผ่อนคลายความดันโลหิตผ่านการผลิตไนตริกออกไซด์และสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย
ช็อคโกแลตมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าน้ำผลไม้จริงหรือ?
นักวิจัยจาก Hershey Center for Health & Nutrition ได้เปรียบเทียบสารอาหารและโภชนาการในดาร์กช็อคโกแลตกับน้ำผลไม้ พบว่าในดาร์กช๊อกโกแลตนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือ antioxidant ในปริมาณที่มากกว่า โดยผลิตภัณฑ์จากโกโก้นั้นมีระดับของสารต้านอนุมูลอิสระที่เอาชนะผลไม้ดีๆอย่างบลูเบอร์รี่หรือแครนเบอร์รี่ได้ ถึงขนาดที่ยกให้เมล็ดโกโก้นั้นเป็น “super fruit” และให้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโกโก้เป็น “super foods” เลยทีเดียวเชียวค่ะ

10 ประโยชน์จากดาร์กช็อกโกแลต
สวยท้าแดด ดาร์กช็อกโกแลต มีสาร“ฟลาโวนอยด์” (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นชนิดเช่นเดียวกับไวน์แดง พืชผัก ผลไม้ และใบชา จึงช่วยปกป้องผิวจากแสงยูวีได้นั่นเอง
ผิวนุ่มชุ่มชื้น ดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก, แคลเซียม, วิตามิน A, B1, C, D และวิตามิน E ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธาตุอาหารที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น ดูมีชีวิตชีวาได้อีกด้วยย
ลดความเครียดส่งผลให้แก่ช้า ดาร์กช็อกโกแลตก็สามารถชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิวได้ โดยนักวิทยาศาสตร์ก็ได้อธิบายว่า ธาตุอาหารต่าง ๆ ในดาร์คช็อกโกแลตจะช่วยปรับฮอร์โมนของเราให้เป็นปกติและเร่งร่างกายให้ขับสารเอนโดรฟีนหรือฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา จึงทำให้คนที่ได้กินดาร์กช็อกโกแลตเข้าไปอารมณ์ดี๊ดี ลดความเครียดที่มีและเมื่ออารมณ์ดีก็จะส่งผลไปถึงสุขภาพผิวพรรณให้สวยสดใสเปล่งปลั่งไร้ริ้วรอยนั่นเอง
ช่วยลดคอเรสเตอรอล จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า สารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และยังช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตได้อีกด้วย เพราะช็อกโกแลตชนิดนี้มีกรดโอเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อร่างกาย
บำรุงหัวใจและเลือด จากผลการวิจัยของประเทศสวีเดนเผยว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจได้สูงถึงร้อยละ 44 ทั้งนี้เป็นเพราะปริมาณสารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจมากขึ้น ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวที่จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันในเวลาต่อมา ด้วยความที่ดาร์กช็อกโกแลตแท่งสีดำเข้มนั้นอุมดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย เช่น โพแทสเซียม สังกะสี แมกนีเซีย และธาตุเหล็ก จีงช่วยบำรุงเลือดของเราให้เกิดการไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้เราห่างไกลจากภาวะโลหิต โรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง
ช่วยให้ความจำดีขึ้น ดาร์กช็อกโกแลตเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ทำให้เราจดจำอะไรได้ดีขึ้น จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย Nottingham ในประเทศอังกฤษ เผยว่า สารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของสมองให้นานมากขึ้นถึง 2-3 ชั่วโมง
เร่งผมยาวผมสลวยสวยเก๋ ดาร์กช็อกโกแลตมีทั้งธาตุเหล็ก, แคลเซียม, สังกะสี และทองแดง ซึ่งมีส่วนช่วยเร่งการผลัดเซลล์ใหม่ แถมยังมีสรรพคุณในเรื่องการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน จึงส่งผลให้หนังศีรษะมีสุขภาพดีทำให้ผมหนาและสลวยเงางามไปด้วย
ลดอาการซึมเศร้า ดาร์กช็อกโกแลตมีสารเซโรโทนินโดพามีนและฟีนิลไทลามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ ก็ในดาร์กช็อกโกแลตมันมีสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โมโนเอมินเอ็กซิเดส หรือเรียกสั้นๆว่า ‘’MAO inhibitor’’ ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับยา anti-depressent ที่ใช้กับโรคซึมเศร้านั่นเอง และเจ้า MAO inhibitor จะไปทำให้สารสื่อประสาทต่างๆ สามารถทำงานได้ดีขึ้น พอส่วนต่างๆทำงานได้ดีขึันแล้วความคิดของคุณก็จะแจ่มใสขึ้นตามมา รู้อย่างนี้แล้วเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเศร้า เหงาซึม หาทางออกไม่เจอ ก็ลองหยิบดาร์กช็อกโกแลตมากินเพลินๆสักนิดนะคะ
ความอยากอาหาร การทานช็อกโกแลตจะทำให้สมองกลีบหน้าทำงานดีขึ้น กล่าวคือ มันเป็นศูนย์กลางที่สามารถลดความอยากอาหารให้กับคุณได้ รู้อย่างนี้มีดาร์กช็อคโกแลตติดกระเป๋าสักแท่งนี่ไม่เลวเลยน้าา
การลดน้ำหนัก ข่าวดีสำหรับสาวๆที่อยากลดน้ำหนักกัน คือ มีการวิจัยที่พบว่า คนที่ทานช็อกโกแลตในปริมาณที่ปกติจะมีรูปร่างที่เล็กลงกว่าคนที่ไม่ทานช็อกโกแลตเลย เพียงแต่การทานช็อกโกแลตนั้นต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปเพราะอาจทำให้คุณมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นแทนได้

นอกจากเรื่องความสวยความงามแล้ว “ดาร์กช็อกโกแลต” ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมอง เพราะในช็อกโกแลตมีแมกนีเซียม แมงกานีส ทองแดง สังกะสี และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก ซึ่งสารอาหารทั้งหลายเหล่านี้ยังช่วยให้กระดูกของคุณแข็งแรงได้อีกด้วย

ปริมาณที่เหมาะสมในการรับประทาน
ดาร์กช็อกโกแลตนั้นถึงแม้จะมีประโยชน์ที่มากมายหลายหลากขนาดนี้ แต่เราก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมนะคะ เพราะยังไงในดาร์กช็อกโกแลตก็ยังคงมีน้ำตาลและนมผสมอยู่บ้าง ซึ่งปริมาณที่แนะนำต่อวันก็คือ 100 กรัมกำลังดีค่ะ เพราะถ้ากินมากกว่านี้อาจจะทำให้อ้วนได้

ข้อยกเว้นที่ควรทราบ
ความจริงแล้วช็อกโกแลตก็มีข้อยกเว้นในบางกรณืเหมือนกันค่ะ คือช็อกโกแลตนั้นมีข้อจำกัดบางประการกับคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพที่่ป่วยเป็นโรคไตและไมเกรน หากกินเข้าไปแล้วอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
สำหรับคนที่เป็นไมเกรน คือในช็อกโกแลตนั้นมีสารเคมีที่ชื่อ ไทรามีน (Tyramine) ที่จะยิ่งทำให้การไหลเวียนของเลือดอยู่ในระดับต่ำลง อาการปวดไมเกรนอาจหนักขึ้นกว่าเดิม
สำหรับคนที่เป็นโรคไต ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่มีกรดออกซาลิกสูง หากผู้ป่วยโรคไตกินเข้าไปอาจทำให้เกิดผลึกแคลเซียมออกซาเลทสะสมเป็นก้อนนิ่วในกรวยไตมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น