“สีส้ม” ต้าน มะเร็งปอด

สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ สีส้มสดใสนี้เป็นเกราะป้องกันมะเร็งปอดให้กับคุณๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
จะป้องกันมะเร็งได้อย่างไรนั้น ชมนาดมีงานวิจัยมายืนยันดังนี้ค่ะ

แคโรทีน พระเอกคนสำคัญ
ในปี ค.ศ.1981 ดร.ริชาร์ด เชเคลล์ ( Dr.Richard chakell) นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยเท็กซัส และคณะ เก็บข้อมูลจากประชากร 2,000 คน ย้อนไปถึงปี ค.ศ.1957 ว่าพวกเขากินอาหารอะไรบ้างใน 195 ชนิดที่กำหนด และมีใครที่เป็นมะเร็งปอด

ผลการสำรวจผลพบว่า ผู้ที่กินอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้ แม้แต่ผู้ที่สูบบุหรี่มาแล้วหลายปีก็ตาม

ส่วนผู้ที่กินอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนน้อยที่สุดจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด มากกว่าผู้ที่กินมากที่สุดในกลุ่มถึง 7 เท่า
นอกจากนี้มีงานวิจัยจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเท็กซัส พบว่า ผู้ที่เลิกบุหรี่ 2-9 ปี แต่ได้รับสารกลุ่มแคโรทีน (Carotenes) ต่ำจะมีโอกาสเป็นมะเร็งหลอดอาหารมากกว่าผู้กินผักผลไม้ที่มีแคโรทีนสูงถึงห้าเท่าครึ่ง

แครอต นางเอกคู่ขวัญแคโรทีน
แล้วผักชนิดไหนล่ะที่มีพร้อมจะให้แคโรทีนแก่ร่างกายได้มากที่สุด คำตอบคือ แครอต พบว่าหัวน้ำหนัก 100 กรัม จะมีแคโรทีนถึง 3.26 มิลลิกรัม ปริมาณแคโรทีนที่พบถือว่าไม่มีความแตกต่างจากผักใบเขียวหรือเหลืองชนิดอื่น แต่ข้อดีของแคโรทีนผักหัวสีส้มนี้คือ จะถูกทำลายได้ยาก ร่างกายจึงดูดซึมไปใช้ได้อย่างเต็มที่

มีคำแนะนำว่า กินแครอตวันละ 1 หัวจะเพียงพอต่อการป้องกันมะเร็งปอดได้นอกจากนี้ ผักสีสวยแสนอร่อยนี้ยังอุดมด้วยวิตามิน เอ บี 6 วิตามินซี และใยอาหาร ส่วนประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นๆ เช่น ช่วยล้างไขมันในตับทำให้การทำงานของตับดีขึ้น แก้อาการตาฟาง เป็นต้น

ตัวเหลืองเพราะแครอตอันตรายไหม
ผู้ที่กินแครอตเป็นประจำอาจสงสัยว่าจะทำให้ตัวเหลืองไหม และเป็นอันตรายหรือเปล่า ชมนาดมีคำตอบมาบอกค่ะ
หากกินเป็นประจำทุกวันนานหลายเดือนย่อมทำให้เกิดอาการตัวเหลืองได้ ซึ่งเกิดจากร่างกายสะสมแคโรทีนส่วนเกินไว้กับไขมัน จึงทำให้ผิวมีสีเหลืองได้ แต่ไม่เป็นอันตรายใดๆ

วิธีแก้คือ หยุดกิน อาการตัวเหลืองก็จะหายไป ซึ่งตรงกับหลักการของชีวจิตอยู่แล้วว่า เราควรกินอาหารให้หลากหลายและสมดุลค่ะ