ถ้านึกถึงอาหารญี่ปุ่น 'ซูชิ' หรือ 'ข้าวปั้น' คงเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของคนไทยจำนวนไม่น้อย ยืนยันได้จากร้านซูชิแผงลอยที่เปิดกันหนาตา สนนราคาชิ้นละ 5 - 10 ชิ้น พร้อมหน้าหลากหลายให้ผู้บริโภคเลือกกันตามใจชอบ อร่อยถูกปาก ราคาพอดีคำ แต่รู้หรือเปล่าว่าแฝงเชื้อ อี.โคไล แบคทีเรียร้ายที่จ้องทำลายสุขภาพ
วัฒนธรรมแดนอาทิตย์อุทัยจารึกไว้ว่า ซูซิ นั้นเกิดจากการคิดกรรมวิธีถนอมอาหารของชาวญี่ปุ่น แรกๆ นั้นหน้าของซูชิจะเป็นจำพวกปลาหมักถัดมาจึงได้มาเปลี่ยนเป็นของทะเลสดๆ เพิ่มขิงดองเป็นเครื่องเคียง รวมทั้งวาซาบิเพราะมีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อโรค แน่นอนว่าซูชิถูกปรับรูปแบบตามยุคสมัยมาเรื่อยๆ
ส่วนผสมของซูชิ ประกอบด้วยข้าวปั้นที่ผสมน้ำส้มสายชู โรยหน้าด้วยของคาวนานาชนิด อาทิ ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ไข่กุ้ง, ไข่ปลา, ปลาหมึกยักษ์, สาหร่าย ฯลฯ สำหรับขั้นตอนการทำซูชิจะนำข้าวญี่ปุ่นมาผสมน้ำส้มสายชูของญี่ปุ่นแล้วนำมาปั้น พร้อมกับวางหน้าต่างๆ ตามชอบ ซึ่งตรงนี้เองถ้าผู้ปรุงทำไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่รักษาความสะอาด ซูชิก็จะปนเปื้อน เชื้อ อี.โคไล
อี.โคไล เป็นแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์ม ที่จริงแล้วมีอยู่ตามธรรมชาติในลำไส้ใหญ่ของเรานั้นเอง อย่างไรก็ตาม เชื้อตัวนี้มักมีการปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม หรือในมือของผู้ปรุงอาหารด้วย
ผู้ที่ได้รับเชื้อ อี.โคไล เริ่มแรกจะมีอาการท้องร่วง และค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น มีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจมีเลือดปน มีไข้ กระทั่งอาเจียน
ศูนย์วิจัยและประเมินความเสี่ยงด้านอาหารปลอดภัย ในโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก สถาบันอาหาร (NFI) เปิดเผยผลสำรวจ เชื้อ อี.โคไล ที่ปนเปื้อนในซูชิ 5 ย่านการค้าของกรุงเทพฯ ปรากฎว่าพบ 3 ตัวอย่างที่มีปริมาณปนเปื้อนเกินเกณฑ์มาตรฐานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนดไว้ว่าอาหารพร้อมบริโภคและอาหารปรุงสุกทั่วไปจะมี เชื้อ อี.โคไล ปนเปื้อนได้ไม่เกิน 3 MPN/กรัม (วิเคราะห์ 27- พ.ค.-7 มิ.ย. 56 วิธีวิเคราะห์ FDA-BMA Online, 2002(Chapter 4))
ตลาดบางลำพู ย่านพระนครมากกว่า 1,100 MPN/กรัม
ถนนพระราม 6ย่านพญาไท 1,100 MPN/กรัม
หน้าเจ้าพระยา 3 ย่านบางพลัด 3.6 MPN/กรัม
ตลาดวังหลัง ย่านบางกอกน้อย น้อยกว่า 3 MPN/กรัม
ตลาดประตูน้ำ ย่านราชเทวีน้อยกว่า 3 MPN/กรัม
แม้รสชาติอร่อยถูกปาก แต่ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อซูชิผู้บริโภคคงต้องชำเลืองมองถึงความสะอาดให้มากขึ้น ที่สำคัญด้านผู้ขายต้องใส่ใจประกอบอาหารให้ถูกสุขลักษณะเป็นสำคัญ
วัฒนธรรมแดนอาทิตย์อุทัยจารึกไว้ว่า ซูซิ นั้นเกิดจากการคิดกรรมวิธีถนอมอาหารของชาวญี่ปุ่น แรกๆ นั้นหน้าของซูชิจะเป็นจำพวกปลาหมักถัดมาจึงได้มาเปลี่ยนเป็นของทะเลสดๆ เพิ่มขิงดองเป็นเครื่องเคียง รวมทั้งวาซาบิเพราะมีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อโรค แน่นอนว่าซูชิถูกปรับรูปแบบตามยุคสมัยมาเรื่อยๆ
ส่วนผสมของซูชิ ประกอบด้วยข้าวปั้นที่ผสมน้ำส้มสายชู โรยหน้าด้วยของคาวนานาชนิด อาทิ ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ไข่กุ้ง, ไข่ปลา, ปลาหมึกยักษ์, สาหร่าย ฯลฯ สำหรับขั้นตอนการทำซูชิจะนำข้าวญี่ปุ่นมาผสมน้ำส้มสายชูของญี่ปุ่นแล้วนำมาปั้น พร้อมกับวางหน้าต่างๆ ตามชอบ ซึ่งตรงนี้เองถ้าผู้ปรุงทำไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่รักษาความสะอาด ซูชิก็จะปนเปื้อน เชื้อ อี.โคไล
อี.โคไล เป็นแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์ม ที่จริงแล้วมีอยู่ตามธรรมชาติในลำไส้ใหญ่ของเรานั้นเอง อย่างไรก็ตาม เชื้อตัวนี้มักมีการปนเปื้อนในอาหาร น้ำดื่ม หรือในมือของผู้ปรุงอาหารด้วย
ผู้ที่ได้รับเชื้อ อี.โคไล เริ่มแรกจะมีอาการท้องร่วง และค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น มีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจมีเลือดปน มีไข้ กระทั่งอาเจียน
ศูนย์วิจัยและประเมินความเสี่ยงด้านอาหารปลอดภัย ในโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก สถาบันอาหาร (NFI) เปิดเผยผลสำรวจ เชื้อ อี.โคไล ที่ปนเปื้อนในซูชิ 5 ย่านการค้าของกรุงเทพฯ ปรากฎว่าพบ 3 ตัวอย่างที่มีปริมาณปนเปื้อนเกินเกณฑ์มาตรฐานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนดไว้ว่าอาหารพร้อมบริโภคและอาหารปรุงสุกทั่วไปจะมี เชื้อ อี.โคไล ปนเปื้อนได้ไม่เกิน 3 MPN/กรัม (วิเคราะห์ 27- พ.ค.-7 มิ.ย. 56 วิธีวิเคราะห์ FDA-BMA Online, 2002(Chapter 4))
ตลาดบางลำพู ย่านพระนครมากกว่า 1,100 MPN/กรัม
ถนนพระราม 6ย่านพญาไท 1,100 MPN/กรัม
หน้าเจ้าพระยา 3 ย่านบางพลัด 3.6 MPN/กรัม
ตลาดวังหลัง ย่านบางกอกน้อย น้อยกว่า 3 MPN/กรัม
ตลาดประตูน้ำ ย่านราชเทวีน้อยกว่า 3 MPN/กรัม
แม้รสชาติอร่อยถูกปาก แต่ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อซูชิผู้บริโภคคงต้องชำเลืองมองถึงความสะอาดให้มากขึ้น ที่สำคัญด้านผู้ขายต้องใส่ใจประกอบอาหารให้ถูกสุขลักษณะเป็นสำคัญ
