MGR ออนไลน์ - พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ที่เป็นพรรครัฐบาลของกัมพูชาได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อคำแถลงที่ระบุว่าไร้มูลความจริงของพรรคเพื่อไทย ลงวันที่ 12 พ.ย. 2568 ซึ่งกล่าวหากัมพูชาว่าวางทุ่นระเบิดใหม่และส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อเร็วๆ นี้
“ข้อกล่าวหาใดๆ ที่จงใจกล่าวอ้างโดยปราศจากข้อเท็จจริง การสอบสวนที่แน่ชัด หรือการนำเหตุการณ์ทุ่นระเบิดมาใช้เป็นเรื่องการเมืองเพื่อใส่ร้าย มีความเสี่ยงที่จะทำลายความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และหมิ่นประมาทรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวาและเจตนารมณ์ของอนุสัญญา” พรรคประชาชนกัมพูชาระบุในคำแถลง ที่สำนักข่าว AKP ได้รับในเย็นวันนี้ (13)
สื่อกัมพูชายังรายงานว่าพรรค CPP ได้ประณามอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์การยิงพลเรือนชาวกัมพูชาที่หมู่บ้านเปรยจัน จ.บันเตียเมียนเจย เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่อ้างว่าทำให้พลเรือนเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ที่โดยระบุว่าเป็นการทำลายความพยายามในการหยุดยิงและสร้างสันติภาพโดยเจตนา
“เราเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างอิสระโดยให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อค้นหาความจริงและให้ความยุติธรรมแก่พลเรือนที่ได้รับผลกระทบ” คำแถลงของพรรค CPP ระบุ
พรรครัฐบาลกัมพูชายังระบุว่าอีกว่า ในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา กัมพูชามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความพยายามกำจัดทุ่นระเบิดและกวาดล้างวัตถุระเบิดที่ตกค้างจากสงครามภายในดินแดนของตน รวมถึงมีส่วนร่วมในปฏิบัติการกำจัดทุ่นระเบิดของสหประชาชาติในประเทศอื่นๆ ที่ได้รับกรยอมรับในระดับนานาชาติในฐานะแบบอย่างของปฏิบัติการทุ่นระเบิดระดับโลก รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเพื่อต่อสู้กับการหลอกลวงทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ผ่านการสอบสวนร่วมกัน การแบ่งปันข้อมูล และการช่วยเหลือทางกฎหมายซึ่งกันและกัน ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
พรรค CPP ยังระบุอีกว่า พรรคได้สนับสนุนให้รัฐบาลของทั้งสองประเทศยึดมั่นและบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ รวมถึงข้อตกลงหยุดยิงที่บรรลุเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2568 ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะประธานอาเซียน จากการริเริ่มของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิญญาสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทยที่ลงนามเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2568 เพื่อลดระดับความตึงเครียด ฟื้นฟูความเชื่อมั่น และสันติภาพตามแนวชายแดน
คำแถลงของพรรค CPP ยังย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของกัมพูชาในการรักษาสันติภาพ ยึดมั่นตามกฎหมายระหว่างประเทศ และให้ความร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศ ในการแก้ไขความท้าทายผ่านวิธีการสันติเพื่อนำมาซึ่งสันติภาพและเสถึยรภาพในภูมิภาค.