โฆษก TMAC ยืนยันจุดทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นพื้นที่ลาดตระเวนประจำ หลังทหารกัมพูชาถอนกำลังออกไป ฝ่ายไทยเข้าคุมพื้นที่ตั้งแต่ 17 ต.ค.และกวาดล้างทุ่นระเบิดออกหมดแล้ว หลักฐานชี้ชัดลอบวางใหม่ มุ่งทำร้ายทหารไทย จงใจไม่ปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพ ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา จึงขอประณามการกระทำที่ขาดความจริงใจ
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.68 พ.อ.ศิวะ หว่างอากาศ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) เปิดเผยถึงกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณพื้นที่ ห้วยตามาเรีย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.68 ยืนยันว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่กำลังพลปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบนเส้นทางที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่ทหารกัมพูชาเคยรุกล้ำเข้ามาวางกำลัง ก่อนที่จะถอนกำลังออกไปภายหลังเหตุปะทะที่ผ่านมา โดยหลังจากทหารกัมพูชาถอนกำลังออกไปแล้วฝ่ายไทยได้เข้าควบคุมพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.68 พร้อมทั้งได้ดำเนินการเสริมความมั่นคงพื้นที่ด้วยการกวาดล้างทุ่นระเบิดวางเครื่อกีดขวาง ลวดหนาม และลาดตระเวนเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่อง ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.68 ตรวจพบว่าแนวลวดหนามที่วางบริเวณเส้นทางลาดตระเวนถูกลักลอบเข้ามารื้อถอน
จากนั้นในวันที่ 10 พ.ย.68 หน่วยในพื้นที่จึงได้จัดกำลังชุดลาดตระเวนร่วมกับ ชุดทหารช่าง เข้าพิสูจน์ทราบและซ่อมแซมแนวลวดหนามที่ถูกรื้อถอน จนเป็นเหตุให้กำลังพลเหยียบทุ่นระเบิด
หลังจากเกิดเหตุหน่วยในพื้นที่ได้ประสานขอรับการสนับสนุน ชุดตรวจค้นหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) จากสถานีตำรวจภูธรบึงมะลู และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จังหวัดศรีสะเกษ เข้าพิสูจน์ทราบบริเวณจุดเกิดเหตุ
จากหลักฐานที่ปรากฏ พบร่องรอยหลุมระเบิดและเศษชิ้นส่วนระเบิดที่ทำงานแล้ว ซึ่งสามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 และตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 ที่ยังไม่ทำงานอยู่บริเวณใกล้เคียงกับหลุมระเบิดอีก จำนวน 3 ทุ่น เป็นการลอบวางใหม่โดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายมุ่งทำร้ายกำลังพลที่ลาดตระเวนเส้นทางอยู่เป็นประจำและหวังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อฝ่ายไทย
การกระทำของฝ่ายกัมพูชาในครั้งนี้ ปรากฏชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชายังคงจงใจไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสันติภาพดังกล่าว
รวมทั้งแสดงให้เห็นถึง การละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการลอบโจมตีกำลังพลฝ่ายไทยด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ และทำลายความหมายที่แท้จริง ของคำว่าสันติภาพของภูมิภาคสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมที่มุ่งคุกคามฝ่ายไทย และรุกล้ำอาณาเขตของไทยอย่างชัดเจนเสมอมา ด้วยการใช้อาวุธทุ่นระเบิด และมีเจตนามุ่งหมายที่จะไม่ยุติความขัดแย้งระหว่างฝ่ายไทย และกัมพูชา อย่างที่แสดงออกในเวทีโลก ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่แสดงออกถึงความไม่จริงใจ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นอุปสรรคสำคัญอันจะนำไปสู่การสร้างสันติภาพในภูมิภาค รวมทั้งเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อทุกประเด็นที่กัมพูชาเคยให้คำมั่นในปฏิญญาต่อประชาคมโลก ทั้งระดับทวิภาคีและระดับนานาชาติ


