เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของกัมพูชากล่าวว่า จำนวนโลมาแม่น้ำโขงในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 100 ตัว ตัวเลขที่ทำให้เกิดความหวังว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์นี้จะรอดพ้นจากการสูญพันธุ์
โลมาอิรวดี ที่ครั้งหนึ่งเคยว่ายอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของแม่น้ำโขงไปจนถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำในเวียดนาม พบว่า ประชากรในแม่น้ำลดลงจาก 200 ตัว ที่ดำเนินการสำรวจครั้งแรกเมื่อปี 2540 เหลืออยู่เพียง 89 ตัวในปี 2563 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการทำประมงผิดกฎหมาย การสูญเสียถิ่นที่อยู่ และขยะพลาสติก
“ปัจจุบัน เรามีโลมาอยู่ประมาณ 105 ตัว” รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร กล่าวในพิธีเนื่องในวันประมงแห่งชาติ
กระทรวงเกษตรระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายงานพบลูกโลมาเกิดใหม่ 8 ตัว แต่ขณะเดียวกันก็พบโลมาตาย 2 ตัว ส่วนในปี 2566 พบโลมาเกิดใหม่ 8 ตัว และตายไป 5 ตัว
“กระทรวงได้ดำเนินมาตรการอย่างจริงจังต่อการกระทำความผิดเกี่ยวกับการประมง และการผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทำประมงแบบทำลายล้าง ที่สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรทางทะเล” รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร กล่าว
เมื่อปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชาในขณะนั้นได้ยกเลิกกฎหมายเพื่อปกป้องโลมาในแม่น้ำโขงที่เขาได้อนุมัติไปก่อนหน้า โดยระบุว่าโลมายังคงทยอยตายไปเรื่อยๆ แต่อุตสาหกรรมประมงได้รับความเดือดร้อนจากกฎหมายอนุรักษ์ดังกล่าว
โลมาอิรวดีถูกจัดอยู่ในบัญชีแดงของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของ IUCN และสิ่งที่เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์นี้ คือ 70% ของประชากรโลมาอิรวดีในปัจจุบันแก่เกินกว่าจะผสมพันธุ์
นอกจากนี้ ที่อยู่อาศัยของโลมายังลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากเขื่อนต้นน้ำในลาวและจีน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำ.