เอเอฟพี - ผู้นำคณะรัฐบาลทหารพม่าเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่กำลังต่อสู้กับทหารทั่วประเทศ ให้หาวิธีแก้ปัญหาทางการเมือง สื่อของรัฐรายงานวันนี้ (5)
รัฐบาลทหารกำลังเสียเปรียบจากการโจมตีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ใกล้ชายแดนจีน อินเดีย และไทย ในสิ่งที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในปี 2564
พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เตือนว่าหากกลุ่มติดอาวุธยังคงโง่เขลา ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องจะได้รับผลกระทบเลวร้าย หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ระบุ
“ดังนั้น จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงชีวิตของประชาชน และองค์กรเหล่านั้นต้องแก้ไขปัญหาทางการเมืองของพวกเขา” พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าว
พม่ามีกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์มากกว่า 10 กลุ่ม ที่หลายกลุ่มยึดครองดินแดนในพื้นที่ชายแดนของประเทศ และต่อสู้กับกองทัพนับตั้งแต่ได้เอกราชจากอังกฤษ
ในปลายเดือน ต.ค. กลุ่มติดอาวุธ 3 กลุ่มเปิดฉากโจมตีประสานงานร่วมกันทั่วพื้นที่ตอนเหนือของรัฐชาน เข้าควบคุมเมืองต่างๆ และศูนย์กลางการค้าสำคัญบริเวณชายแดนจีน
สหประชาชาติระบุคาดการณ์ว่ามีพลเรือนมากกว่า 250 คน รวมทั้งเด็ก เสียชีวิตนับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้นในเดือน ต.ค. และยังทำให้มีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 500,000 คน ทั่วประเทศ
กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ที่ก่อตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารที่โค่นล้มรัฐบาลของอองซานซูจี ได้เปิดฉากโจมตีครั้งใหม่ต่อกองทัพในพื้นที่ตอนเหนือและตะวันออก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังของ PDF ได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่าพวกเขาสามารถเข้าควบคุมพื้นที่บางส่วนในเมืองเอกของรัฐกะยา และกำลังต่อสู้เพื่อขับไล่กองกำลังทหารของรัฐบาลออกจากเมือง.