xs
xsm
sm
md
lg

ชาวเมืองเปาก์ตอตื่นตระหนกอพยพวุ่น อาศัยวัดหลบภัย หลังกองทัพอาระกัน-กองทัพยังปะทะเดือด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - ชาวพม่าหลายสิบครอบครัวนอนอยู่บนเสื่อที่รายล้อมไปด้วยข้าวของที่วัดแห่งหนึ่งทางตะวันตกของพม่า ในการอพยพครั้งล่าสุดเพื่อหลบหนีจากสงครามกลางเมืองที่ทำให้มีผู้พลัดถิ่นหลายแสนคน

กลุ่มติดอาวุธของกลุ่มชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์โจมตีกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลทหารสัปดาห์ก่อนในรัฐยะไข่ ที่มีพรมแดนติดกับบังกลาเทศ ที่นับเป็นการเปิดอีกหนึ่งแนวรบต่อต้านรัฐบาลทหารที่กำลังต่อสู้อยู่กับการโจมตีในพื้นที่ตอนเหนือและตะวันออกอยู่ก่อนแล้ว

เหตุปะทะที่ลุกลามขยายวงกว้างส่งผลให้ประชาชนเกือบ 335,000 คน ต้องอพยพหลบหนีออกจากบ้านเรือนของตนเอง ตามการระบุของสหประชาชาติ

หลังนักสู้ของกองทัพอาระกัน เข้ายึดครองเมืองเปาก์ตอ เมืองชายฝั่งทะเลช่วงสั้นๆ กองทัพได้ส่งเรือของกองทัพเรือยิงถล่มเมืองที่มีประชากรราว 20,000 คน ในวันพฤหัสฯ (23) และยิงกราดใส่เมืองด้วยปืนจากเฮลิคอปเตอร์ ตามการเปิดเผยของชาวบ้าน

ในขณะที่กองกำลังทหารเข้าปิดล้อม ประชาชนหลายพันคนหลบหนีออกจากเมืองและหมู่บ้านโดยรอบ บางคนหลบหนีไปทางเรือ บ้างก็หาที่หลบภัยตามวัดวาอารามต่างๆ

“ผมได้ยินข่าวลือว่ากองกำลังทหารกำลังมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านและยิงพลเรือน” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีจากวัดนอกเมืองเปาก์ตอ

“เราเผชิญกับความยากลำบากมากมายตอนที่เราหนีออกมา เพราะเราต้องข้ามแม่น้ำด้วยเรือเล็กขณะที่ฝนตกหนัก ทุกคนอยู่ในอาการตื่นตระหนก” ชาวบ้านรายเดิม กล่าว

ในความเงียบสงบของวัด หลายครอบครัวนั่งกันเป็นกลุ่มพูดคุยกันและเตรียมอาหาร ผู้หญิงคนหนึ่งกล่อมเด็กให้นอนหลับ

รัฐบาลทหารกล่าวว่า พวกเขากลับเข้าควบคุมเมืองเปาก์ตอไว้ได้อีกครั้ง แต่ยังคงมีการปะทะกันเกิดขึ้นในพื้นที่

เมื่อสัปดาห์ก่อน สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างคำกล่าวของชาวบ้านที่ระบุว่า มีคนถูกควบคุมตัวในเมืองเปาก์ตอประมาณ 100 คน นับตั้งแต่ทหารเข้ามาถึงเมืองและยังไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิต

การสื่อสารที่ติดขัดในพื้นที่ทำให้การตรวจสอบตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นยากมาก

การสู้รบในพื้นที่ทำให้มีผู้พลัดถิ่นเกือบ 20,000 คน สหประชาชาติระบุ ถนนและทางน้ำหลายจุดในรัฐแห่งนี้ถูกทหารปิดกั้น ตัดทางเลือกสำหรับชาวบ้านที่จะหลบหนีไปยังที่ปลอดภัย

“เรามาถึงที่นี่ด้วยการเดินเท้าและนั่งเรือช่วงที่ฝนตกหนัก เด็กๆ หนาวมากและบางคนล้มป่วย ฉันเป็นห่วงข้าวของที่เราทิ้งไว้ที่หมู่บ้านของเรา” ทัน ทัน อายุ 45 ปี ที่หนีออกจากหมู่บ้านใกล้เมืองเปาก์ตอ กล่าวกับเอเอฟพี

กองทัพอาระกันต่อสู้อยู่เป็นระยะเพื่อเรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเองให้ชาวยะไข่ของรัฐ

กองทัพอาระกันเป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์หลายสิบกลุ่มที่ต่อสู้กับกองทัพนับตั้งแต่ประเทศได้เอกราชจากอังกฤษ บางกลุ่มต้องการสิทธิในการปกครองตนเอง ขณะที่บางกลุ่มเพียงต้องการสิทธิในการค้าขายหยก ยาเสพติด และไม้ในดินแดนของตนเอง

กองทัพอาระกันยังต่อสู้กับรัฐบาลทหารในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐชาน ควบคู่ไปกับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์กลุ่มอื่นที่เป็นพันธมิตรกัน

นับตั้งแต่โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในปี 2564 กองทัพพยายามอย่างหนักที่จะปราบปรามการต่อต้านด้วยอาวุธจากกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร

แต่การโจมตีครั้งใหญ่ที่เข้ายึดเมืองและปิดกั้นเส้นทางการค้าสำคัญไปยังจีน ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลทหาร ถือเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุดต่อนายพล ตามการระบุของนักวิเคราะห์

พลเรือนรวมทั้งเด็ก เกือบ 200 คน ถูกสังหารนับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ตามการระบุของสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน กองทัพต้องพึ่งพากำลังทางอากาศและปืนใหญ่มากขึ้น

“หากมีการสู้รบระหว่างกองทัพอาระกันและกองทัพพม่า เครื่องบินรบจะเข้ามาโจมตีหมู่บ้านของเรา เครื่องบินรบไม่เพียงแค่โจมตีบริเวณที่มีการสู้รบ แต่ยังทำลายทุกอย่างด้วย” ชาวบ้าน กล่าว.




กำลังโหลดความคิดเห็น