xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม ชาวเมืองเกาลินพลัดถิ่นกว่า 50,000 คน หลังกลุ่มติดอาวุธเข้ายึดสำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR ออนไลน์ - หลังจากสู้รบอย่างดุเดือดเป็นเวลา 4 วัน กับกองกำลังทหารของรัฐในเขตสะกาย กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารสามารถเข้ายึดครองเมืองเกาลิน (Kawlin) ไว้ได้ แต่ชาวเมืองและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์กล่าวว่า การสู้รบทำให้มีผู้พลัดถิ่น 50,000 คน ก่อให้เกิดความวิตกถึงความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) กองกำลังกึ่งทหารที่ต่อต้านรัฐบาลทหารภายใต้ร่มเงาของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) และทหารของกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) ได้เปิดฉากโจมตีสถานีตำรวจ ที่ว่าการอำเภอ และโรงเรียนที่กองกำลังทหารประจำการอยู่ในตัวเมืองเกาลิน

การโจมตีดังกล่าวจุดชนวนการปะทะที่กินเวลาถึงวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งในระหว่างนั้นทหารตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศ เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เปิดเผยกับสำนักข่าววิทยุเอเชียเสรีเมื่อวันอังคาร (7)

เมื่อฝุ่นของการสู้รบจางหายไปในวันจันทร์ กองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือ PDF และกองทัพเอกราชกะฉิ่น (KIA) ได้เข้าควบคุมเมืองเกาลิน แต่มีพลเรือนอย่างน้อย 10 คน เสียชีวิต และอีก 50,000 คน หลบหนีออกจากบ้านของตนเองไปยังที่ปลอดภัยบริเวณชานเมือง เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ระบุ

“มีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 4-5 คน จากอาวุธขนาดเล็กและกระสุนปืน” เจ้าหน้าที่กล่าว พร้อมเสริมว่าศพผู้เสียชีวิต 10 ศพ ถูกค้นพบขณะเจ้าหน้าที่เข้าเก็บกวาดซากปรักหักพังบนถนนในเมืองเมื่อวันที่ 6 พ.ย.

กองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารได้ให้การรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอนได้ เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ กล่าว

ผู้หญิงคนหนึ่งที่หลบหนีออกจากเมืองเกาลินเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ขณะที่มีการโจมตีทางอากาศและการโจมตีด้วยปืนใหญ่ กล่าวกับสำนักข่าวว่า ผู้พลัดถิ่นรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะกลับไปที่บ้านโดยไม่มีการรักษาความปลอดภัย

“ครอบครัวของเราขี่รถจักรยานยนต์ออกมาที่พื้นที่ชนบทขณะเกิดการสู้รบ” ผู้หญิงคนเดิมกล่าว และเสริมว่าพวกเขาไม่สามารถนำสิ่งของใดๆ ติดตัวออกมาด้วยได้ เว้นเพียงเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เท่านั้น

“เราไม่กล้ากลับบ้าน เรากลัวการโจมตีทางอากาศ หวังว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติโดยเร็ว ฉันไม่เคยเจอกับความสับสนวุ่นวายแบบนี้มาก่อนในชีวิต” ชาวเมืองเกาลิน ระบุ

ชาวบ้านรายนี้ยังกล่าวว่า ผู้คนเกือบ 50,000 คน ที่หลบหนีออกจากเมืองเกาลินอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เมือง และกองกำลังต่อต้านได้จัดหาอาหารและที่พักพิงให้ผู้พลัดถิ่น

อย่างไรก็ตาม กองทัพได้ปิดกั้นเส้นทางมาเมืองเกาลิน ส่งผลให้ผู้ที่หลบหนีไม่มีอาหาร ยา และเชื้อเพลิงเพียงพอ ชาวบ้านกล่าว

ในขณะเดียวกัน กองกำลังต่อต้านกำลังทำงานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการควบคุมเมือง และรุกคืบไปยังเมืองที่อยู่ใกล้เคียง สมาชิก PDF ของเมืองเกาลินกล่าว

“เรากำลังพยายามรักษาเมืองซึ่งเป็นงานที่ยากมาก เราต้องทำภารกิจที่ยากลำบากมากมายเพื่อยึดเมือง เราต้องล่าถอยหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เข้าควบคุมได้” สมาชิก PDF กล่าว

สมาชิก PDF รายนี้กล่าวว่า เขาหวังว่าความสำเร็จของกลุ่มของเขาจะเป็นแรงบันดาลใจให้กองกำลังต่อต้านรัฐบาลกลุ่มอื่นๆ ทำเช่นเดียวกันในพื้นที่อื่นๆ ของเขตสะกาย พื้นที่ที่มีการสู้รบดุเดือดที่สุดในพม่านับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในการรัฐประหารเดือน ก.พ.2564

นักวิจารณ์การเมืองระบุว่า การยึดเมืองเกาลินของกองกำลังต่อต้านนี้เป็น ‘ขั้นแรก’ ของการยึดเมืองอื่นๆ ในเขตสะกาย

“กองกำลังต่อต้านในสะกายต้องการอาวุธและกระสุนมากกว่ากำลังคน หากพวกเขาควบคุมพื้นที่ได้มากขึ้นด้วยอาวุธที่เพียงพอและพยายามทำงานร่วมกันให้ดียิ่งขึ้น เราก็อาจได้เห็นความสำเร็จที่มากขึ้นของกองกำลังต่อต้านในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” นักวิจารณ์การเมืองระบุ

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติระบุว่า มีพลเรือนมากกว่า 1.6 ล้านคน ต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือนของตนจากการสู้รบนับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2564 และผู้พลัดถิ่นในเขตสะกายมีจำนวนอย่างน้อย 812,500 คน.


กำลังโหลดความคิดเห็น