MGR Online - ทางเลี่ยงบนถนน AH1 เส้นทางค้าขายหลักไทย-พม่า ในรัฐกะเหรี่ยง ช่วงที่ฝนซัดถล่มจนดินทรุดตัวขาดยาวนับสิบเมตรเมื่อตอนต้นเดือน รถเล็กวิ่งผ่านได้เป็นบางช่วง แต่หลังเปิดใช้ได้วันเดียว ถูกกลุ่มติดอาวุธประเดิมดักยิงรถตู้จนพรุน ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยบาดเจ็บไป 3 คน
เช้าวันที่ 20 ส.ค. เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายดักสาดกระสุนโจมตีรถรับส่งคนงานที่เพิ่งนำแรงงานกลับจากการซ่อมแซมทางหลวงเอเชียหมายเลข 1(AH1) เมียวดี-กอกะเร็ก ในรัฐกะเหรี่ยง ที่ได้รับความเสียหายจากฝนตกหนักต่อเนื่องเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน จนถนนช่วงหลักกิโลเมตรที่ 30 ใกล้กับทางขึ้นน้ำตกตอหน่อขาดเป็นทางยาวนับ 10 เมตร
เหตุดักยิงดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 09.30 น. ขณะที่รถบรรทุกเครื่องจักรกลหนักเพิ่งเดินทางออกจากไซต์งานซ่อมแซมถนนเพื่อกลับเข้าไปตัวเมืองเมียวดี พร้อมกับรถตู้โตโยต้า ไฮเอซ อีกหนึ่งคัน ซึ่งบนรถมีผู้โดยสาร 15 คน ได้ถูกกองกำลังติดอาวุธกลุ่มหนึ่งดักซุ่มยิง ทำให้ผู้ที่โดยสารอยู่บนรถตู้ 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิงอีก 1 คน ได้รับบาดเจ็บ ส่วนสภาพรถตู้มีรอยกระสุนพรุนไปทั่วทั้งคัน หลังเสียงปืนสงบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือรีบนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจำเมืองติงกานหญี่หน่อง ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด
ก่อนหน้านี้ ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม ก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจนสร้างความเสียหายแก่ทางหลวง AH1 หลายจุด โดยเฉพาะช่วงกิโลเมตรที่ 30 ใกล้กับทางขึ้นน้ำตกต่อหน่อ ซึ่งเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 ปริมาณน้ำฝนจำนวนมากได้ซัดจนดินตามไหล่เขาทรุดตัว ส่งผลให้ถนนขาดเป็นระยะทางยาวมากกว่า 10 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านได้ (โปรดดูภาพประกอบ)
ทางหลวงสาย AH1 เป็นเส้นทางหลักสำหรับใช้ขนส่งสินค้าที่มีการซื้อขายกันระหว่างไทยและพม่า ผ่านด่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี ซึ่งเป็นประตูการค้าไทย-พม่าที่ใหญ่ที่สุด แต่ละปีสินค้าที่ซื้อขายกันผ่านช่องทางนี้เป็นจำนวนมาก โดยตัวเลขในปีงบบประมาณ 2565 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าไทย-พม่าผ่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี สูงถึง 1.3 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าจำเป็นจากไทยเข้าไปกระจายขายตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศพม่า
ทางการเมียวดีต้องสั่งปิดการสัญจรบนถนนสายนี้อย่างเด็ดขาด บังคับให้รถทุกคันเลี่ยงไปใช้ถนนเมียวดี-กอกะเร็กสายเก่า ซึ่งเป็นถนนที่ต้องไต่ลัดเลาะขึ้นไปบนเทือกเขาดอนะที่สูงชัน ทั้งแคบและคดเคี้ยว โดยใช้ระบบสลับเส้นทาง วิ่งขาไป 1 วัน และวิ่งขากลับอีก 1 วัน ส่งผลให้รถบรรทุกสินค้าจากประเทศไทยนับ 100 คันต้องจอดค้างอยู่หน้าด่านชายแดน ทั้งฝั่งเมียวดีและแม่สอด เพราะไม่สามารถเดินทางเข้าไปส่งสินค้าได้ พร้อมเร่งระดมคน เครื่องมือ เครื่องจักรเข้าซ่อมแซมถนนช่วงที่ขาดให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่สุด
วันที่ 19 สิงหาคม 2566 การซ่อมแซมถนนมีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ได้เปิดทางเลี่ยง อนุญาตให้รถเล็กสามารถขับผ่านไปตามทางเลี่ยงดังกล่าวได้เป็นบางช่วง แต่รถใหญ่ยังคงให้ขึ้นไปใช้เส้นทางบนเทือกเขาดอนะ อย่างไรก็ตาม หลังเพิ่งเปิดให้รถเล็กเริ่มกลับมาใช้ถนนสายนี้ได้เพียงวันเดียวก็เกิดเหตุดักระดมยิงรถตู้ขึ้นในตอนเช้าของวันที่ 20 สิงหาคม.
