มุ่งเป้าเอกราชยะไข่! ทัพอาระกันเมินร่วม "รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ" กับฝั่งซูจี

MGR Online - “ทุน เมียต ไหน่” ผบ.กองทัพอาระกันปฏิเสธเทียบเชิญ CRPH ที่ขอให้เข้าร่วมรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ยืนยันเดินหน้าผลักดันยะไข่ให้เป็นรัฐเอกราช เพื่อสร้างอาณาจักรอาระกันให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ 16 เมษายน พล.อ.ทุน เมียต ไหน่ ผู้บัญชาการ กองทัพอาระกัน (AA) ทวีตข้อความมีเนื้อหาโดยสรุปว่า คณะกรรมาธิการตัวแทนรัฐสภาพม่า (CRPH) ได้ส่งเทียบเชิญให้เขาเข้าร่วมรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ แต่เขาได้ปฏิเสธไปแล้ว

ทวีตของ พล.อ.ทุน เมียต ไหน่ เกิดขึ้นหลังจากตอนบ่ายของวันเดียวกัน CRPH ซึ่งได้ดำเนินบทบาทเป็นรัฐบาลคู่ขนานมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ได้ประกาศตั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government : NUG) ขึ้น พร้อมเรียกร้องนานาประเทศและองค์กรระหว่างประเทศให้รับรองรัฐบาลชุดนี้อย่างเป็นทางการ แทนที่สภาที่ปรึกษาแห่งรัฐ (SAC) ที่มี พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย เป็นประธาน ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายนอกกฎหมาย


รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติมี อู วิน มิ่น เป็นประธานาธิบดี อองซาน ซูจี เป็นที่ปรึกษาแห่งรัฐ มาน วิน ข่าย ตาน เป็นนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีว่าการ 11 คน กับรองรัฐมนตรีอีก 12 คน

อย่างไรก็ตาม แม้ใช้ชื่อว่ารัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ แต่คณะบุคคลสำคัญในรัฐบาลชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นคนชาติพันธุ์พม่า รองลงมาเป็นชาติพันธุ์ชิน กะเหรี่ยง และคะฉิ่น ส่วนรองรัฐมนตรี 12 คน มี 6 คนมาจากชาติพันธุ์กะเหรี่ยง คะฉิ่น มอญ กะหร่าง กะเหรี่ยงแดง และตะอั้ง

ส่วนหนึ่งของคนที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เป็นแกนนำหรือมีบทบาทนำในความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารตามพื้นที่ต่างๆ เช่น อิ ตินซา หม่อง หญิงสาวชาวกะเหรี่ยงแดง ที่เป็นแกนนำประท้วงบนท้องถนนตั้งแต่วันแรกๆ ของการรัฐประหาร ได้รับแต่งตั้งเป็นรองรัฐมนตรีกระทรวงกิจการสตรี เยาวชน และเด็ก และน่าจะเป็นรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุด




สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่ามีประชากรรวม 54 ล้านคน ประกอบด้วยคนจาก 135 ชาติพันธุ์ มีคนชาติพันธุ์พันธุ์พม่าเป็นประชากรส่วนใหญ่ และใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาทางการ

เมื่อวันที่ 10 เมษายน ในโอกาสครบรอบ 12 ปี ของการก่อตั้งกองทัพอาระกัน พล.อ.ทุน เมียต ไหน่ ได้เขียนสาสน์ในภาษาอาระกัน ระบุว่าเขาไม่ต้องการให้ในรัฐยะไข่มีปฏิบัติการอารยะขัดขืนโดยการหยุดงาน (CDM) หรือการออกมาเดินขบวนประท้วงการรัฐประหารบนท้องถนน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำลายเป้าหมายของกองทัพอาระกันที่ต้องการสร้างเอกราชให้แก่รัฐยะไข่

พล.อ.ทุน เมียต ไหน่ เขียนว่า กองทัพอาระกันพร้อมให้การสนับสนุนทุกชาติพันธุ์ในพม่า แม้แต่คนชาติพันธุ์พม่า ให้บรรลุถึงเป้าหมายทางการเมืองของตนเอง อย่างไรก็ตาม ชาวยะไข่มีเป้าหมายของตนเองที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งเรียกว่า“Way of Rakhita” หรือความฝันของชาวยะไข่ นั่นคือการสร้างอาณาจักรอาระกันซึ่งเคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ในอดีตให้กลับคืนมาอีกครั้ง




ในสาสน์ของ พล.อ.ทุน เมียต ไหน่ เขาบอกว่า กองทัพอาระกันรู้สึกเศร้าใจกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆ ทั่วพม่าหลังการรัฐประหาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงไม่ต้องการให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในรัฐยะไข่

กองทัพอาระกันเป็นกองกำลังชาวยะไข่พุทธ ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2552 เพื่อเรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเอง ดูแล จัดการผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และลดบทบาทของกองทัพพม่าในรัฐยะไข่ โดยพื้นที่ปฏิบัติการของกองทัพอาระกันส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือของรัฐยะไข่และภาคใต้ของรัฐชิน โดยเฉพาะในจังหวัดปะแลตวะ

รัฐธรรมนูญปี 2008 (2551) ของพม่า ให้การรับรองพื้นที่ปกครองตนเอง 6 แห่ง ประกอบด้วย พื้นที่ปกครองตนเองนาคา ในภาคสะกาย และอีก 5 แห่ง ในรัฐชาน ได้แก่ พื้นที่ปกครองตนเองโกก้าง พื้นที่ปกครองตนเองธนุ พื้นที่ปกครองตนเองปะหล่อง พื้นที่ปกครองตนเองปะโอ และเขตพิเศษหมายเลข 2 สหรัฐว้า

นอกจากนี้ ยังมีเขตพิเศษหมายเลข 4 เมืองลา ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหมือนอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงตุง รัฐชานตะวันออก แม้ไม่มีชื่อถูกรับรองอยู่ในรัฐธรรมนูญ 2008 แต่ในทางปฏิบัติเป็นพื้นที่ปกครองตนเองของชาวลื้อ และมีกองทัพเป็นของตนเอง

เดือนพฤศจิกายน 2561 ทหารของกองทัพอาระกันได้เปิดฉากโจมตีที่มั่นของหน่วยทหารพม่าในภาคเหนือของรัฐยะไข่ จากนั้น กองทัพอาระกันและพม่าได้สู้รบกันอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงกันอย่างไม่เป็นทางการ และเริ่มต้นกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างกัน

หลังกองทัพพม่าทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในรัฐยะไข่มีความเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารน้อยมาก จึงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นที่นี่ เทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านพ้นมา มีการจัดงานตามประเพณีกันอย่างสนุกสนานในหลายพื้นที่ของรัฐยะไข่

อย่างไรก็ตาม กองทัพอาระกันเป็น 1 ใน 4 กองกำลังติดอาวุธที่เรียกตนเองว่าพันธมิตรภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วยกองทัพอาระกัน กองทัพตะอั้ง กองทัพโกก้าง และกองทัพเอกราชคะฉิ่น โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พันธมิตรภาคเหนือได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้กองทัพพม่ายุติการกระทำรุนแรงต่อประชาชนที่ออกมาประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร แต่กองทัพพม่ายังเดินหน้าปราบปรามประชาชนอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่

วันที่ 10 เมษายน พันธมิตรภาคเหนือ นำโดยกองทัพตะอ้าง กองทัพโกก้าง และกองทัพอาระกัน จึงนำกำลังเข้าโจมตีสถานีตำรวจประจำเมืองหนองมอน อำเภอล่าเสี้ยว จังหวัดล่าเสี้ยว ในภาคเหนือของรัฐชาน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตถึง 14 นาย.