เอพี - ผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจของทหารในพม่ากลับลงถนนของเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอีกครั้งในวันนี้ (23) หนึ่งวันหลังเรียกร้องการหยุดงานประท้วงปิดร้านค้าครั้งใหญ่ จนทำให้มีคนจำนวนมหาศาลออกมาร่วมการชุมนุม
แม้จำนวนผู้ชุมนุมในวันนี้จะลดลงจากเมื่อวันจันทร์ แต่ประชาชนในย่างกุ้งได้รวมตัวกันที่ย่านเลดาน ซึ่งเป็นจุดนัดพบใหญ่ของผู้ชุมนุมประท้วง ขณะที่กลุ่มอื่นๆ รวมตัวกันตามสถานที่ต่างๆ ของเมือง
ส่วนที่เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ มีการจัดงานศพให้แก่เต๊ต นาย วิน อายุ 37 ปี หนึ่งใน 2 ผู้ประท้วงที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ เขาและเด็กชายวัยรุ่นอีกคนหนึ่งเสียชีวิตลงหลังจากตำรวจและทหารเปิดฉากยิงใส่ฝูงชนที่มารวมตัวกันเพื่อสนับสนุนคนงานท่าเรือที่เจ้าหน้าที่พยายามจะบังคับให้กลับไปทำงาน หลังจากพวกเขาผละงานประท้วง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการอารยะขัดขืนทั่วประเทศต่อต้านการยึดอำนาจของทหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่มีข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจเข้าร่วมจำนวนมาก
ทหารกล่าวว่า พวกเขาเข้ายึดอำนาจเพราะการเลือกตั้งปีก่อนมีความผิดปกติในการลงคะแนนอย่างกว้างขวาง คำกล่าวอ้างที่คณะกรรมการการเลือกตั้งปฏิเสธ
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจี ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ที่จะทำให้รัฐบาลของเธอได้กุมอำนาจบริหารประเทศเป็นสมัยที่ 2 แต่กองทัพได้เข้าขัดขวางการประชุมรัฐสภา และควบคุมตัวซูจีและประธานาธิบดีวิน มี้น รวมถึงสมาชิกระดับสูงในรัฐบาลอีกหลายคน และรัฐบาลทหารได้กล่าวว่าจะปกครองประเทศเป็นเวลา 1 ปี และจะจัดการเลือกตั้งใหม่
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์มีกิจกรรมทางการทูตในต่างประเทศเกิดขึ้นเนื่องจากความวิตกกังวลถึงสถานการณ์ของพม่า เช่น สหรัฐฯ และรัฐบาลชาติตะวันตกหลายแห่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลทหารละเว้นจากความรุนแรง ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัว และฟื้นคืนรัฐบาลของซูจี นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังระบุว่ากำลังกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อสมาชิกของรัฐบาลทหารเพิ่มเติม เนื่องจากการสังหารผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติโดยฝีมือของกองกำลังความมั่นคง
พล.ท.โม มยี้น ตุน และ พล.อ.หม่อง หม่อง จ่อ ถูกเพิ่มชื่อเข้าไปในกลุ่มผู้นำทหารและกิจการของทหารที่เผชิญกับมาตรการคว่ำบาตร ขณะที่อังกฤษและแคนาดาได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกันนับตั้งแต่รัฐประหาร
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในคำแถลงว่า สหรัฐฯ ประณามการโจมตีต่อผู้ชุมนุมประท้วง และให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมหากเกิดความรุนแรงขึ้นอีก
“เราเรียกร้องให้ทหารและตำรวจยุติการโจมตีผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติ ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวอย่างไม่เป็นธรรมทันที หยุดโจมตีและข่มขู่นักข่าวและนักเคลื่อนไหว และฟื้นฟูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย” บลิงเคน กล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปสั่งร่างชุดมาตรการที่มุ่งเป้าดำเนินการกับผู้ที่รับผิดชอบการรัฐประหาร พวกเขากล่าวว่า สหภาพยุโรปพร้อมที่จะใช้มาตรการเข้มงวดมุ่งเป้าไปยังผู้ที่รับผิดชอบโดยตรงกับการรัฐประหาร ขณะเดียวกัน ก็จะพิจารณาตัวเลือกอื่นๆ ทั้งหมด ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรมักเกี่ยวกับการอายัดทรัพย์และห้ามเดินทางไปยังยุโรป
รัฐมนตรียังเรียกร้องให้ยุติภาวะฉุกเฉินและปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด พร้อมสำทับว่ามาตรการคว่ำบาตรใดๆ ก็ตามที่สหภาพยุโรปจะกำหนดขึ้นนั้นจะไม่มุ่งเป้าไปที่คนทั่วไป
อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวย้ำการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อประชาชนชาวพม่า ในการกล่าวเปิดการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ
“ไม่มีพื้นที่สำหรับการรัฐประหารในโลกสมัยใหม่ของเรา” กูเตอร์เรส กล่าวในวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้าสำหรับการประชุมครั้งที่ 46
ทั้งนี้ ทุกคืนในพม่ายังคงมีการปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตตั้งแต่เวลา 1.00-9.00 น. และโพสต์บนโซเชียลมีเดียในเช้าวันนี้ ระบุว่าตำรวจในย่างกุ้งพยายามบุกจับกุมตัวคนที่มีความเชื่อมโยงกับการชุมนุมประท้วงในยามวิกาลมากขึ้น.