เขมรไล่ออกนายตำรวจใหญ่กรณีล่วงละเมิดทางเพศ แต่รอดฟ้องดำเนินคดีอ้างปกป้องผู้เสียหาย

รอยเตอร์ - นายตำรวจระดับสูงของกัมพูชาถูกไล่ออกจากการประพฤติมิชอบทางเพศ ในคดีสำคัญในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ แต่จะไม่ถูกดำเนินคดีเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผู้หญิงที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.อุ๊ก โกสาล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กำปงธม ถูกสั่งพักงานเมื่อเดือนก่อน ระหว่างรอการสอบสวนในข้อกล่าวหาการประพฤติมิชอบทางเพศ จากการร้องเรียนของเจ้าหน้าที่หญิงรุ่นน้อง 4 คน ที่กลายเป็นข่าวพาดหัว

นายพลระดับสองดาวผู้นี้ถูกกล่าวหาว่าบังคับเจ้าหน้าที่หญิงให้ร่วมเพศในที่ทำงานด้วยการข่มขู่ว่าจะขัดขวางความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นผู้นำการสอบสวน กล่าวว่า โกสาลถูกไล่ออกและลดยศเป็นพันตำรวจเอก

แต่เขากล่าวว่า เจ้าหน้าที่หญิงเลือกที่จะไม่ฟ้องคดีอาญาข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ที่มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี และเรียกร้องให้รัฐบาลทำเช่นเดียวกัน

“นี่เป็นคดีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และแทนที่จะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงของเราระมัดระวัง เราต้องเสริมสร้างจริยธรรมในหมู่ผู้นำหน่วยตำรวจของเราแทน ความจริงที่ว่าพวกเขากลายเป็นเหยื่อนั้นก็น่าอายมากพอแล้ว พวกเขาพอใจที่ได้รับความยุติธรรม และสามารถกลับไปทำงานและกู้ศักดิ์ศรีของพวกเขาคืนมา” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว

ด้านโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัมพูชากล่าวว่า มีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสืบคดีอาญากับโกสาล ที่ยังคงยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์

ทั้งนี้ รอยเตอร์ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่หญิง หรือโกสาลได้

คดีนี้กลายเป็นข่าวพาดหัวในช่วงเวลาที่ประชาชนกำลังถกเถียงเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้หญิงในกัมพูชา ที่ร่างกฎหมายจะจำกัดสิ่งที่ผู้หญิงสามารถสวมใส่ได้ ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมการกล่าวโทษเหยื่อในอาชญากรรมทางเพศ

ผู้กล่าวหาระบุในรายงานถึงรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยว่าข้อร้องเรียนก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการประพฤติมิชอบของโกสาลต้องเผชิญกับการถูกเยาะเย้ยและข่มขู่คุกคาม กระทั่งข้อกล่าวหาของพวกเขาถึงมือสื่อการดำเนินการถึงเกิดขึ้น

ด้านนักรณรงค์สิทธิสตรีได้วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของกระทรวงมหาดไทยที่ไม่ดำเนินคดีกับโกสาล

“นี่เป็นการส่งข้อความว่าการล่วงละเมิดและคุกคามทางเพศเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในกัมพูชา ความรุนแรงบนพื้นฐานทางเพศและเพศภาวะไม่สามารถดำเนินต่อไปโดยที่ไม่ต้องรับโทษอย่างที่เคยเป็นมานานในประเทศนี้” จัก สุเพียบ หัวหน้าศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา กล่าว

องค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวว่า การรับผิดชอบต่ออาชญากรรมทางเพศยังคงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจในกัมพูชา และเป็นเรื่องทั่วไปที่เจ้าหน้าที่จะกลับสู่ตำแหน่งระดับสูงเมื่อสื่อเลิกสนใจ

“นี่เป็นการประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่การรับผิดชอบ” โฆษกองค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุ.