xs
xsm
sm
md
lg

สหประชาชาติเตือนสถานการณ์ต่อสู้รัฐยะไข่ทวีความรุนแรง ร้องเร่งดูแลพลเรือนในพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - สหประชาชาติเรียกร้องมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือพลเรือนในพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า และเตือนว่าการต่อสู้ระหว่างกองทัพและผู้ก่อความไม่สงบทวีความรุนแรงขึ้น

ทหารพม่ากำลังต่อสู้กับกองทัพอาระกัน (AA) กลุ่มกบฏที่เรียกร้องสิทธิในการปกครองตนเองให้แก่ชาวพุทธชาติพันธุ์ยะไข่ ในรัฐยะไข่และรัฐชินนับตั้งแต่เดือน ม.ค.2562 ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นผลให้พลเรือนจำนวนมากถูกสังหารและอีกหลายหมื่นคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่อาศัย โดยทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหากันถึงข้อกล่าวหาการละเมิดต่างๆ

พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตต่อสู้ถูกล็อกดาวน์และไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทำให้การตรวจสอบรายงานในพื้นที่เป็นเรื่องยาก

สหประชาชาติแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานการต่อสู้ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเมืองระตีด่อง ของรัฐยะไข่ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่อยู่ของพลเรือนมากกว่า 10,000 คน และแหล่งข่าวท้องถิ่นรายงานว่า พวกเขากำลังหลบหนี หรือติดอยู่ท่ามกลางการสู้รบที่กำลังดำเนินอยู่

ถ้อยแถลงของสหประชาชาติเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินมาตรการเร่งด่วนในการดูแลป้องกันพลเรือน และเรียกร้องให้พวกเขาเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมทั้งย้ำถึงความจำเป็นในการหยุดยิงเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น

สหประชาชาติออกถ้อยแถลงดังกล่าวหลังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นออกคำสั่งให้ประชาชนมากกว่า 40 หมู่บ้านอพยพออกจากพื้นที่ก่อนปฏิบัติการกวาดล้างเริ่มขึ้น

คำว่าปฏิบัติการกวาดล้างเคยถูกใช้ในปี 2560 ก่อนที่กองทัพจะดำเนินการปราบปรามชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ การปราบปรามที่ทำให้โรฮิงญามากกว่า 750,000 คน ต้องหลบหนีไปบังกลาเทศ พร้อมกับเรื่องราวความรุนแรงต่างๆ ที่นำไปสู่การฟ้องร้องพม่าในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ศาลสูงของสหประชาชาติ

แต่รัฐมนตรีกิจการชายแดนได้กล่าวกับเอเอฟพีว่า ได้ยกเลิกคำสั่งอพยพไปแล้ว เพราะกองทัพมุ่งเป้าเพียงแค่ 5 หมู่บ้าน ที่รวมทั้งหมู่บ้านจอก์ตัน เพื่อกำจัดกลุ่มก่อความไม่สงบกองทัพอาระกัน

“มันไม่ใช่ปฏิบัติการกวาดล้าง แต่เป็นปฏิบัติการทางทหาร” พ.อ. มิน ถั่น กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น