รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีฮุนเซน เรียกร้องให้ผู้นำเขมรนำประเทศกลับสู่เส้นทางประชาธิปไตย และพยายามที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของจีน
ฮุนเซน ที่ปกครองกัมพูชามานานกว่า 34 ปี ถูกชาติตะวันตกกดดันมากขึ้นเพื่อให้กัมพูชาปรับปรุงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศ ขณะที่สหภาพยุโรปขู่ว่าจะถอนผลประโยชน์ทางการค้า และความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ นับว่าย่ำแย่มากหลังกัมพูชากล่าวหาว่าสหรัฐฯ วางแผนต่อต้านฮุนเซน
“เป็นสิ่งสำคัญต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราในอนาคตที่คุณจะนำพากัมพูชากลับเข้าสู่เส้นทางของการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย” ทรัมป์เขียนลงในจดหมายที่ลงวันที่ 1 พ.ย.
นักวิจารณ์เรียกกัมพูชาว่าเป็นรัฐพรรคเดียวนับตั้งแต่ที่ศาลสูงยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ในปี 2560 ปูทางให้พรรครัฐบาลของฮุนเซนชนะทุกที่นั่งในสภาในการเลือกตั้งเมื่อปีก่อน
ฮุนเซนกล่าวหาว่าสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนพรรค CNRP และวางแผนปฏิวัติสีเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของเขา
จดหมายของทรัมป์ยังระบุว่า ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองประเทศ
“ผมหวังที่จะใช้โอกาสนี้เน้นย้ำว่าสหรัฐฯ เคารพอธิปไตยของประชาชนชาวกัมพูชา และเราไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง” จดหมายระบุ
อย่างไรก็ตาม เนื้อความในจดหมายยังเรียกร้องให้ฮุนเซนพิจารณาทบทวนการตัดสินใจบางอย่างของรัฐบาลเสียใหม่ ด้วยอาจเสี่ยงต่อความมั่นคงในอนาคตของกัมพูชา
แม้จดหมายจะไม่ได้อ้างถึงจีนอย่างเจาะจง แต่สหรัฐฯ แสดงความวิตกในความสัมพันธ์ทางทหารที่ขยายตัวขึ้นกับปักกิ่ง
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. กัมพูชาสั่งปล่อยตัวแกม สุขา หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน จากการกักบริเวณภายในบ้านพัก หลังแกม สุขา ถูกตั้งข้อหากบฏขายชาติเมื่อ 2 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการถอนข้อหากับแกม สุขา และยังคงห้ามแกม สุขา ทำกิจกรรมทางการเมืองและเดินทางออกนอกประเทศ
ฮุนเซนได้โพสต์เฟซบุ๊กไว้ว่าเขาได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสฯ ซึ่งรวมถึงจดหมายเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-อาเซียน ที่สหรัฐฯ
ส่วนโฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวว่า รัฐบาลเห็นชอบกับจุดยืนของทรัมป์ในจดหมายดังกล่าว
“รัฐบาลกัมพูชาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้คุณค่ากับสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย” พาย สีพัน โฆษกรัฐบาล กล่าว.