รอยเตอร์ - สม รังสี ผู้ก่อตั้งพรรคฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ลี้ภัยการเมือง กล่าววานนี้ (7) ว่า เขาจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจแม้มีอุปสรรคขัดขวางจากความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เขาเดินทางกลับประเทศเพื่อไปอยู่กับคนของเขา
สม รังสี มีกำหนดเดินทางจากกรุงปารีสไปกรุงเทพฯ วันนี้ (7) และเขาได้กล่าวไว้ว่าจะอยู่ในกัมพูชาวันเสาร์ (9) ซึ่งเขาอาจเผชิญต่อการจับกุมตัวท่ามกลางการปราบปรามที่เกิดขึ้นกับบรรดาสมาชิกพรรค และการควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวของพรรค 2 คนในมาเลเซีย ขณะพยายามที่จะเดินทางกลับกัมพูชาเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ของไทยระบุว่า สม รังสี จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางผ่านไทยเพื่อกลับเข้าไปในกัมพูชา
อดีตรัฐมนตรีการคลังของกัมพูชาผู้นี้ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินทางกลับไปนำการชุมนุมประท้วงต่อต้านการปกครองพรรคเดียวของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ที่เขาเรียกว่า “เผด็จการโหดเหี้ยม”
“การปราบปรามไม่เคยรุนแรงมากเช่นนี้ ความไม่พอใจไม่เคยแข็งแกร่งขนาดนี้ ดังนั้น นี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะสร้างเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตย” รังสี กล่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในปารีส
“ผมต้องกลับไป กลับไปประเทศของผมเพราะผมต้องการที่จะอยู่ใกล้กับคนของผม อยู่กับผู้คนของผมเพื่อนำพวกเขาต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” อดีตหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน กล่าว
สม รังสี ได้ทวีตรูปภาพตั๋วเครื่องบินที่เดินทางจากปารีสไปยังกรุงเทพฯ ซึ่งเขาวางแผนที่จะเดินทางไปยังชายแดนเพื่อข้ามเข้าไปในฝั่งเขมร แต่ฮุนเซนได้สั่งสายการบินต่างๆ ไม่อนุญาตให้สม รังสี โดยสารในเที่ยวบินที่เดินทางมายังกรุงพนมเปญ
การเดินทางกลับประเทศของสม รังสี อาจถูกขัดขวางจากไทย ที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีของประเทศได้กล่าววานนี้ว่า เขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเพื่อเดินทางผ่านไปยังกัมพูชา
“ผมหวังว่าจะมีการจัดการบางอย่างเกิดขึ้น แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ผมจะหาวิธีอื่นที่จะกลับไปประเทศของผม หากผมไม่สามารถเดินทางไปที่กรุงเทพฯ ได้ ผมจะขึ้นเครื่องลำอื่นไปกัวลาลัมเปอร์ จาการ์ตา หรือสิงคโปร์แทน ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่ผมเดินทางไปได้หรือที่ที่ผมสามารถรวบรวมคนไปกับผมได้” สม รังสี ให้สัมภาษณ์
ฮุนเซนได้กล่าวหาฝ่ายค้านว่าจะก่อรัฐประหาร และรัฐบาลของเขาได้จับกุมนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านแล้วอย่างน้อย 48 คนในปีนี้ ขณะที่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านคนสุดท้ายก็ยังคงถูกทางการกักบริเวณในบ้านพักจากข้อหากบฏ
สม รังสี หลบหนีไปฝรั่งเศสเมื่อ 4 ปีก่อนหลังถูกตัดสินความผิดจากคดีหมิ่นประมาท และยังเผชิญต่อโทษจำคุก 5 ปี จากอีกคดีความหนึ่ง แต่เขาปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดใดๆ และระบุว่า ข้อหาที่ถูกตั้งขึ้นนั้นล้วนมีแรงจูงใจทางการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่า เขาไม่สามารถที่จะแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา ที่เป็นชาติสมาชิกในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และทางการไทยจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ต่อต้านรัฐบาลใช้ไทยเพื่อเคลื่อนไหว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มู สุจัว รองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา ถูกทางการไทยปฏิเสธเข้าประเทศ หลังเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากนั้นเธอได้เดินทางไปยังอินโดนีเซีย ที่สถานทูตกัมพูชาได้ร้องให้เธอถูกจับกุมตัวหลังเธอพยายามที่จะจัดการแถลงข่าว
นักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านหลายสิบคนที่หลบหนีออกจากกัมพูชาเพราะกลัวว่าจะถูกจับกุมตัวนั้นได้ให้คำมั่นว่าจะเดินทางกลับมาสนับสนุนสม รังสี
“มีความเป็นไปได้เพียง 3 ทางเกี่ยวกับชะตากรรมของแกนนำทางการเมืองในกัมพูชา คือ พวกเขาถูกฆ่า ถูกจับและจำคุก หรือถูกบังคับให้ต้องลี้ภัย แต่ตอนนี้พอก็คือพอ” รังสี กล่าว
“สำหรับผมชีวิตไม่ยืนยาว แต่ผมต้องการให้คนหนุ่มสาวมีความสุขกับชีวิตที่ดีขึ้น และผมตั้งใจที่จะสละเสรีภาพของผมและชีวิตของผมเพื่อประชาธิปไตย” อดีตหัวหน้าพรรคฝ่านค้าน กล่าวทิ้งท้าย.
