MG ออนไลน์ -- กองทัพประชาชนลาวได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์กว่า 20 ชนิด/รุ่น ออกแสดงเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีการก่อตั้ง ซึ่งในนั้นหลายชนิดยังไม่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับสาธารณชนทั่วไป บางรุ่นยังไม่เคยเห็นมาก่อน อีกหลายรุ่นเช่นระบบอาวุธปลอยนำวิถีต่อสู้อากาศยาน อัตตาจร จรวดชุดนำวิถี จนถึงเครื่องบินตรวจการณ์ แม้กระทั่งปืนใหญ่รุ่นหนึ่งที่ผลิตในสภาพโซเวียตและลาวนำขึ้นบรรทุกบนรถ 6x6 เองเมื่อไม่นานมานี้ ก็ยังไม่เคยนำออกโชว์มาก่อนเช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นต้องไม่ลืมว่ารัสเซียเพิ่งส่งมอบรถถังรุ่นใหม่ T-34B1 กับ เครื่องบินฝึก/โจมตี Yak-130 ให้แก่ฝ่ายลาวเมื่้อไม่นานมานี้ ซึ่งกลายเป็นขวัญใจในพิธีสวนสนามวันอาทิตย์ 20 ม.ค.
ทางการลาวได้จัดเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ครบรอบยปีอันสำคัญ ที่กองกำลังเล็กๆของฝ่ายลาวอืสระถูกก่อตั้งขึ้นมา และค่อยๆ เติบใหญ่ นำการต่อสู้จากเขตป่าเขาและชนบท จนกระทั่งเข้าสู่เมืองหลวง ผ่านการสงครามครั้งสำคัญๆ มานับครั้งไม่ถ้วน คู่ขนานไปกับการต่อสู้ทางการเมืองและการต่างประเทศ จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นลำดับ และ มีประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในวันนี้
พิธีสวนสนามจัดขึ้นที่บริเวณลานกว้างของสถาบันกมมะดำ เมืองโพนโฮง แขวงเวียงจันทน์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของนครหลวงเวียงจันทน์ สื่อของทางการรายงานว่ามีประชาชนทั่วไปเข้าร่วมชมกว่า 7,000 คน อีกนับแสนนับล้านได้ชมการถ่ายทอดสด ผ่านข่ายโทรทัศน์แห่งชาติและวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติตลอดงาน ซึ่งกินเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
.
.
เมื่อ Yak-130 ลำหนึ่ง แสดงการบินผ่าน และ แสดงผาดแผลงเหนือลานกว้าง ซึ่งเป็นตอนท้ายๆ ของพิธีการนั้น ได้ทำให้บรรดาผู้ชมที่รายรอบอยู่ตามขอบสนาม กระทั่งบรรดาผู้นำระดับสูงและแขกเหรื่อบนอัฒจันทร์ พากันส่งเสียงฮึมฮัมเล็ดลอดผ่านการถ่ายทอดสด เสียงฮือฮาดังยิ่งขึ้นเมื่อ Yak-130 บินพลิกหมุนรอบตัวหลายรอบ ตามด้วยเสียงปรบมือเกรียวกราว
.
.
Yak-130 ได้ทำให้เหล่าทหารอากาศลาวกับกองทัพประชาชน ได้กลับคืนสู่ยุคเครื่องบินรบอีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ปลดประจำการ Mig-21 เมื่อหลายปีก่อน -- หนังสือพิมพ์คอมเมอร์ซาล (การพาณิชย์) ของทางการรัสเซียรายงานสัปดาห์ที่่แล้วว่า -- ลาวเซ็นซื้อ Yak-130 ในล็อตแรกรวมทั้งหมด 10 ลำ
สำนักข่าวทาสส์รายงานเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่า จนถึงวันดังกล่าว ฝ่ายรัสเซียได้ส่งมอบ Yak-130 ให้แก่กองทัพประชาชนลาวรวม 4 ลำ ครบตามสัญญาที่เซ็นกันเมื่อต้นปี 2559
.
.
พิธีสวนสนามยังได้เปิดเผยให้เห็นเครื่องบินใหม่อีกฝูงหนึ่ง เหล่ารบทางอากาศได้นำออกแสดงจำนวน 4 ลำ เป็นเครื่องบินตรวจการณ์เบาแบบ LE500 ที่ผลิตในจีน กับเฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ Mi-17 ที่ส่งไปซ่อมแซมและได้รับกลับมาจากรัสเซียจำนวนหนึ่ง เมื่อปีที่แล้ว
.
.
ส่วนบนพื้นดินนั้น มวลชนประทับใจการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองพันใหญ่ทหารราบยานเกราะที่ 11 เคลื่อนที่เร็ว ซึ่งเป็นต้นสังกัดของรถถัง T-72B1 เขี้ยวเล็บใหม่ล่าสุด ลาวใช้เวลาเตรียมการตลอดเดือนที่ผ่านมา เพื่อนำออกร่วมการสวนสนามเมื่อวันอาทิตย์นี้ โดยรถถังยุคที่ 3 รัสเซีย ออกงานพร้อมกับ T-54 รถถังยุคที่ 2 ที่ได้รับการช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียตในช่วงทศวรรษที่ 1970
.
.
นอกจากนั้นกรมปืนใหญ่หน้าดิน ยังได้นำ ป.122 มม. แบบ D30 ที่ผลิตในสหภาพโซเวียตออกแสดง -- ภายนอกทราบกันมานานว่ากองทัพประชาชนลาว มี D30 แบบลากจูงอยู่หลายระบบ จนกระทั่งสื่อของกองทัพรายงานในเดือน ม.ค.ปีที่แล้วว่า กรมใหญ่เท็คนิคกำลัง นำขึ้นติดตั้งบนรถบรรทุก 6 ล้อ "อูราล 375"
.
.
.
สื่อออนไลน์ภาษาลาวหลายสำนักรายงานในช่วงข้ามวันมานี้ว่า ปืนใหญ่ที่เห็นเป็น D20 หรือ HL70 152 มม.ที่ผลิตในโซเวียต ซึ่งเป็นรุ่นที่เก่ากว่า ประสิทธิภาพต่ำกว่า D30 ที่ผลิตออกมาหลังกันถึง 10 ปี แม้ว่าจะใช้กระสุนขนาดใหญ่กว่าก็ตาม
เป็นที่ทราบกันดีว่า กองทัพลาวไม่เคยมี D20 อยู่ในสารระบบ และ คงไม่มีเหตุผลอะไรจะไปจัดหาปืนใหญ่รุ่นเก่ามาใช้งาน ในขณะที่มีรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงกว่าประจำการอยู่แล้ว -- เพราะฉะนั้นที่ปรากฎในภาพสวนสนาม คงจะไม่ใช่อย่างอื่น นอกจาก ป.D30 ที่สามารถใช้กระสุนร่วมกันได้กับ ป.อัตตาจร PCL-09 หรือ "CS-SH1" 122 มม. ที่ซื้อจากจีนเมื่อไม่นานมานี้ และ ออกงานสวนสนามด้วยกันครั้งนี้
ปืนใหญ่ D30 เป็นอาวุธสำคัญที่กองทัพลาวใช้ในการปราบปราม "กบฏล่องแจ้ง" เมื่อปี 2519 ซึ่งเป็นการปราบปรามกองกำลังลาวฝ่ายขวาของนายพลวังปาว ที่ยังหลงเหลืออยู่และพยายามลุกขึ้นต่อสู้อีกครั้ง หลังจากฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้ายึดอำนาจมาเพียงข้ามปีเท่านั้น
นอกจากนั้น D30 ยังมีบทบาทสำคัญในการปราบปรามกองกำลังลาวฝ่ายขวากลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ที่รวมตัวกันใหม่ในบริเวณภูเบี้ย (แขวงเวียงจันทน์เมื่อก่อน) ในปี 2522
D30 ทั้งแบบลากจูงและแบบอัตตาจร ถูกนำออกโชว์พร้อมกับ M62 ป.130 มม. ชนิดลากจูงที่ผลิตในโซเวียต และ เป็น "ราชาแห่งสนามรบ" ของกองทัพประชาชนมานานหลายสิบปี -- ในยุคสงครามเย็น ป.130 มม. เป็นเขี้ยวเล็บที่น่าเกรงขามมากสำหรับฝ่ายตะวันตก -- สหรัฐกับกลุ่มนาโต้ทั้งมวล
.
.
กองพันรบปืนใหญ่หน้าดินยังนำระบบจรวดชุด (Multiple Launch Rocket System) รุ่นใหม่ล่าสุดจากจีนออกแสดงเป็นครั้งแรก -- นั่นคือระบบ SR5 บนแพล็ตฟอร์ม 6 ล้อไท่อัน (Ti-an) TA5310 -- บริษัทนอรินโคผู้ผลิตนำหุ่นเหมือนจริง ออกโชว์ในยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 2555 และ กองทัพประชาชนนำเข้าประจำการในปีถัดมา
ไม่มีข้อมูลว่ากองทัพลาวจัดหาระบบ SR5 เมื่อไร จำนวนกี่ระบบ แต่นี่คือระบบโจมตีเป้าหมายบนพื้นที่มีการนำวิถี หรือ GMLRS (Guided Multiple Launch Rocket System) ยิงได้ไกล 40 กม. มีความแม่นยำสูง ป้อน "กระสุน" อัตโนมัติ -- ของกองทัพลาวเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้จรวดขนาด 122 มม. -- นั่นคือ เท่ากับระบบจรวดชุด BM-21 "กราด" (Grad) บนแพล็ตฟอร์มอูราล 6x6 ที่จัดหาจากโซเวียต 20-30 ปีที่แล้ว
.
.
ส่วนเหล่ารบป้องกันทางอากาศได้นำระบบอาวุธนำวิถีทั้งเก่าและใหม่ออกแสดงหลายรุ่น อาวุธใหม่ทั้งหมดจัดหาจากจีนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่เพิ่งจะได้เห็นกันในงานสวนสนามเป็นครั้งแรก
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า กองทัพลาวมี อวป.นำวิถียิงเครื่องบินแบบสเตรลา (Strela) จากสหภาพโซเวียตอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งหมดเป็นแบบประทับไหล่ยิง -- แต่เป็นครั้งแรกที่นำเอา Strela-10M2 อัตตาจร ติดตั้งบนแพล็ตฟอร์มตีนตะขาบออกโชว์ ระบบนี้ติดตั้งท่อปล่อยจำนวน 2 ชุดๆละ 4 ท่อ รวมอาวุธปล่อยระบบละ 8 ลูก
Strela-10M2 สามารถเคลื่อนที่ไปไหนต่อไหนได้สะดวกและมีประสิทธิภาพสูง สำหรับยิงอากาศยานตั้งแต่ระยะ 10-3,500 เมตร -- โซเวียตพัฒนาขึ้นมาในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 และ เชื่อกันว่ากองทัพลาวได้ระบบนี้มาหลังกรณีขัดแย้งชายแดน กรณี "บ้านร่มเกล้า" กับไทย
.
.
กองพันใหญ่ต่อสู้อากาศยานยังนำระบบ อวป.นำวิถีต่อสู้อากาศยานจากจีนออกแสดงอีกหลายรุ่น รวมทั้ง "อี้เทียน" (Yitian) หรือ เทียนหลง-6 (Tianlong-6) ติดตั้งบนแพล็ตฟอร์ม 6 ล้อ WV-551 -- ทันสมัยกว่าและยิงอากาศยานได้ในระยะไกลกว่า-สูงกว่า Strela-10M2 ที่เก่ากว่า บรรจุอาวุธปล่อยได้ระบบละ 8 ลูกเช่นกัน
ทั้งนี้ไม่ต้องพูดถึงระบบ อวป.นำวิถีต่อสู้อากาศยานพิสัยกลางรุ่นยอดนิยม S-175 (Neva/Pechora) ที่ลาวจัดหาจากโซเวียต และ ในปัจจุบันยังคงประจำการในกองทัพหลายประเทศ รวมทั้งกองทัพพม่าและเวียดนามในย่านนี้ด้วย
เมื่อหันไปสำรวจดูอาวุธประจำกายกำลังพล พิธีสวนสนามครั้งนี้มีหน่วยรบพิเศษถือ ไรเฟิลบุลพับ QBZ-97B ผลิตในจีน อีกหน่วยหนึ่งเป็นทหารรักษาชายแดนถือ ไรเฟิลกาลิล Ace-32 ปืนตระกูลอิสราเอลที่ผลิตเวียดนามภายใต้สิทธิบัตร กำลังพล "กองหลอน" หน่วยหนึ่งถือ AK-47 ไรเฟิลแห่งตำนานคู่สงครามปฏิวัติ อีกหน่วยหนึ่งแต่งเครื่องแบบกองทัพลาวอิสระเมื่อก่อน ถือไรเฟิล "เซกาเซ" (SKS) อันเก่าแก่คู่สงครามกองโจร
.
.
ในพิธียังมีการแสดงการต่อสู้ป้องกันตัวของกำลังพล และ การแสดงกระโดดร่มจากความสูง 1,500-1,800 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักกระโดดร่มหญิงของกองทัพ ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก
ตามประวัติความเป็นมานั้น กองทัพประชาชนลาวก่อตั้งขึ้นเป็นกองกำลังลาวอิสระ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2492 ในเขตเมืองเซียงค้อ แขวงหัวพัน ทางตอนเหนือของประเทศ โดยนายไกสอน พมวิหาน ผู้นำการปฏิวัติลาวเป็นผู้บัญชาการโดยตรง -- จากกำลังพลเพียง 25 นายในวันแรกเริ่ม กลายมาเป็นกองกำลังที่มีกำลังพลประจำการกว่า 1 แสน และ ติดอาวุธทันสมัย ด้วยความช่วยเหลือจากเวียดนามกับสหภาพโซเวียต และ จากจีนในช่วงปีแรกๆ กับปีหลังๆ นี้
เมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ปะเทดลาวยึดอำนาจในวันที่ 2 ธ.ค.2518 นั้น ทั้งกองทัพมีกำลังพลเพียงประมาณ 29,000 เศษเท่านั้น -- นั่นคือกำลังคนหลังการต่อสู้มาเป็นเวลา 30 ปีหลังการก่อตั้ง และ วิวัฒน์ต่อมาอีก 40 ปีจนถึงวันนี้
พิธีสวนสนามเมื่อวันอาทิตย์ฺ มีบรรดาผู้นำระดับสูงเข้าร่วมกันพร้อมหน้า นำโดยนายบุนยัง วอละจิต เลขาธิการใหญ่พรรคประชาชนปฏิวัตลาวและประธานประเทศ นายทองลุน สีสุลิด กรรมการกรมการเมืองพรรค และนายกรัฐมนตรี นางปานี ยาทอตู้ กรรมการกรมการเมือง และประธานสภาแห่งชาติ พล.อ.จันสะหมอน จันยาลาด กรรมการกรมการเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศ
ยังมีรัฐมนตรี หัวหน้ากรมใหญ่ต่างๆ นายทหารระดับสูง ทหารผ่านศึกอาวุโส และ "นักรบวีรชน" เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับผู้แทนจากกองทัพประเทศเพื่อนมิตร ซึ่งรวมทั้งผู้แทนกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่เดินทางไปงานนี้โดยเฉพาะ ผู้แทนกองทัพประชาชนจีน รัฐมนตรีกลาโหมเวียดนาม พล.อ.โง ซวน หลิก รมว.กลาโหมกัมพูา พล.อ.เตีย บัญ ผู้บัญชาการกองทัพพม่า พล.อ.อาวุโสมิน ออง หล่าย ผู้แทนกระทรวงกลาโหมจากไทย และ บรรดาทูตานุทูตที่ได้รับเชิญ
ประธานประเทศลาวได้ปราศัยสดุดี "กองทัพของประชาชน" ที่ภักดีต่อประชาชน พรรคประชาชนปฏิวัติลาว และ รัฐบาล สปป.ลาว อย่างสุดใจและไม่มีเงื่อนไข ทั้งเรียกร้องให้กองทัพปกป้องอธิปไตย เขตน้ำและแดนดินของชาติให้ถึงที่สุด
พล.ต.สอนทอง พิมลาวง รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพคนที่ 1 ซึ่งเป็นพิธีกรในงานพิธีได้กล่าวนำสดุดีกองกำลังต่างๆ ที่เข้าร่วมการสวนสนาม ขอบคุณแขกที่เข้าร่วมงาน หลังจากนั้น พล.ท.สุวอน เลืองบุนมี กรรมการศูนย์กลางพรรค รองรัฐมนตรีป้องกันประเทศคนที่ 1 ซึ่งควบตำแหน่งหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ ได้รายงานความพร้อม และ เชิญ พล.อ.จันสะหมอน รมว.กลาโหม ตรวจแถวขบวนต่างๆ จากนั้นการสวนสนามของริ้วขบวนต่างๆ จึงเริ่มขึ้น
.
.
ตอนค่ำวันเดียวกันได้มีงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 70 ปีกองทัพในนครเวียงจันทน์ พร้อมการแสดงพลุดอกไม้ไฟที่งดงามตระการตา ที่บริเวณลานพระธาตุหลวง ดอกไม้ไฟชุดแล้วชุดเล่าส่งเสียงดังในท้องฟ้าเหนือเมืองหลวง ทำให้ทั่วตัวเมืองหลวงสว่างไสวไปทั่ว วิดีโอที่ถ่ายจากมุมสูงโดยโดรน แสดงให้เห็นการแสดงอันงดงาม อีกหลายชิ้นที่ถ่ายทำจากข้างล่างก็ดูสวยงามไม้แพ้กัน.
