MGRออนไลน์ -- กองทัพประชาชนลาวอวดผลงาน การนำปืนใหญ่ที่ผลิตในสหภาพโซเวียตเมื่อก่อน ขึ้นติดตั้งบนรถบรรทุก 6 ล้ออูราล (Ural) 4320 จากปืนใหญ่สนามลากจูงทั่วไป กลายเป็นระบบปืนใหญ่ที่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้สะดวกรวดเร็ว ซึ่งสื่อของกองทัพรายงานว่า เป็นผลการศึกษาวิจัยและ นำขึ้นติดตั้งด้วยตัวเองจนประสบผลสำเร็จ โดยกรมใหญ่เท็คนิค
ภาพที่เผยแพร่สัปดาห์นี้ แสดงให้เห็นปืนใหญ่ แบบ 2A18 หรือ D30 ขนาด 122 มม. ติดตั้งอยู่บนรถบรรทุกอูราลเป็นที่เรียบร้อย ทำให้อาวุธหนักกับรถบรรทุกหนัก ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น กลายเป็นยุทโธปกรณ์ที่ดูทันยุคทันสมัย และ ประสิทธิภารการใช้งานดีขึ้นกว่าเดิม อย่างเทียบกันไม่ได้
นับเป็นปืนใหญ่อัตตาจรระบบที่ 2 ที่มีการเปิดเผยผ่านสื่อของทางการ นับตั้งแต่ "MGR ออนไลน์" เคยรายงานในเดือน ก.ค.2560 เกี่ยวกับระบบปืนใหญ่อัตตาจร CS-SH1 122 มม. ของกองทัพประชาชนลาว ที่ปรากฏอยู่ในเทปข่าวชิ้นหนึ่ง ของสถานีโทรทัศน์กระทรวงป้องกันความสงบ
ข่าวชิ้นนั้นไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆ เกี่ยวกับปืนใหญ่ที่เห็น แต่ทำให้เชื่อได้ว่า ลาวจัดหาระบบปืนใหญ่รุ่นนี้จากจีน ก่อนหน้านั้นเพียงไม่นาน ทั้งนี้เนื่องจาก ป.อัตตาจร ไม่เคยมีอยู่ในระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองทัพประชาชนลาวมาก่อน จนกระทั่งได้เห็นภาพระบบปืน CS-SH1 122 มม. ในเทปข่าวโทรทัศน์เป็นครั้งแรก -- และ ระบบ D30 ที่ปรากฏในภาพข่าวสัปดาห์นี้ ก็จึงเป็นระบบที่ 2
หนังสือพิมพ์รายวันของกองทัพ รายงานเรื่องนี้ในโอกาสที่ พล.ท.วิไล หล้าคำไฟอง รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ นำคณะจากกระทรวง รวมทั้งบรรดาตัวแทน ของกรมใหญ่ต่างๆ ไปเยี่ยมชมการติดตั้ง รวมทั้่งการยิงทดสอบคุณภาพของ ป.อัตตาจรรุ่นใหม่นี้ ซึ่งลาวเรียกชื่อใหม่เป็น "ປືນຕິດລົດ 122-HL-70" หรือ "ปืนติดรถ"
สื่อของกองทัพไม่ได้แสดง ให้เห็นการยิงทดสอบดังกล่าว แต่ระบุว่า "ຜ່ານການຍິງທົດລອງໃສ່ເປົ້າໝາຍຈຳລອງຕົວຈິງ ແມ່ນມີປະສິດທິຜົນດີ ບັນລຸໄດ້ຕາມຈຸດປະສົງຄາດໝາຍທີ່ວາງໄວ້ ເພື່ອເປັນພື້ນຖານບ່ອນອີງ ແກ່ການສືບຕໍ່ຄົ້ນຄວ້າດັດແປງແກ້ໄຂ ໃຫ້ມີປະສິດທິພາບແລະ ຮັບ ປະກັນທາງດ້ານເຕັກນິກໃຫ້ດີຂຶ້ນ"
ตามรายงานของ พล.ต.แอสะไหม เลืองวันไซ รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ และ หัวหน้ากรมใหญ่เทคนิคนั้น ทั้งหมดนี้เป็นผลงานการค้นคว้าออกแบบ เพื่อปรับปรุงดัดแปลงระบบอาวุธที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัย เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่เป็นริงในประเทศ ทั้งเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณ และ เสริมขยายความรู้ความสามารถ ของบุคคลากรกองทัพ ตามการชี้นำของมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 4 คณะพรรคกระทรวงป้องกันประเทศ
.
ไม่มีข้อมูลว่าลาวจัดหารถบรรทุกล้อยาง 6X6 ตั้งแต่ปีไหน และ มีจำนวนเท่าไร แต่เป็นรถบรรทุกหนัก ที่ผลิตและใช้งานมาตั้งแต่ยุคโซเวียต ปัจจุบันสายการผลิตยังคงอยู่ และ ทำออกมาอีกหลายรุ่น สำหรับกองทัพรัสเซีย ติดตั้งเครื่องยนต์หลากหลายขนาด ตั้งแต่เครื่องดีเซลธรรมดา จนถึงดีเซล V6 และ V8 ขนาด 11-15 ลิตร บรรทุกหนักตั้งแต่ 4 ตันเศษ จนถึง 14 ตัน ใช้งานอเนกประสงค์ รวมทั้งเป็นแพล็ตฟอร์มหลัก สำหรับติดตั้งจรวดชุด BM21 "กราด" (GRAD) ด้วย
ส่วนระบบปืนใหญ่ D30 ใช้งานในกองทัพโซเวียต กับอีกหลายประเทศพันธมิตร มาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1960 นั่นคือ ช่วงสงครามเวียดนาม จึงผ่านศึกมาอย่างโชกโชนในทั่วโลก ตั้งแต่สงครามโซเวียตกับกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน สงครามยูโกสลาเวีย สงครามอิหร่าน-อิรัก สงครามกลางเมืองในโซมาเลีย กับสงครามอ่าวเปอร์เชียทุกครั้ง จนถึงสงครามกลางเมืองในซีเรีย อิรัก อัฟกานิสถาน และ การสู้รบในเยเมน ปัจจุบัน
ตามข้อมูลทางเทคนิคนั้น D30 เป็น ป.122/38 แคลิเบอร์ มีระยะยิงเป้าหมาย 15 กม.เศษ แต่สามารถยิงกระสุน ที่ใช้จรวดขับดันช่วยได้ ซึ่งทำให้ยิงเป้าหมายได้ไกลขึ้นเป็นเกือบ 22 กม. และ ยังสามารถยิงกระสุนระเบิดแรงสูงเจาะเกราะเหล็กหนาได้ ตามแนวนิยมของค่ายโซเวียต-- ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะปลดจากกองทัพบกรัสเซียไปหมดแล้ว แต่ก็ยังคงมีใช้ ในกลุ่มประเทศอดีตรัฐบริวารของโซเวียต และ ในอีกราว 50 ประเทศหลังยุคโซเวียต รวมทั้งในเวียดนาม กัมพูชา และ พม่า ในย่านนี้ด้วย
ตามข้อมูลในเว็บไซต์ข่าวกลาโหม กองทัพประชาชนลาวมี D30 ลากจูงอยู่กว่า 40 ระบบ ทั้งที่จัดหาและได้รับการช่วยเหลือจากโซเวียต เช่นเดียวกับรถบรรทุกอูราล 4320 ที่ผ่านการปรับปรุงซ่อมแซม และ ใช้งานมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ถึงแม้จะใช้ในสงครามได้ เช่นเดียวกันกับปืนใหญ่สนามระบบอื่นๆ แต่หลายประเทศใช้ D30 ในภารกิจด้านความมั่นคงภายใน รวมทั้งการปราบปรามการก่อการร้าย -- น้ำหนัก 3.2 ตัน เมื่อเป็นปืนใหญ่ลากจูง จะใช้กำลังพลถึง 8 ปฏิบัติการ แต่เมื่อนำขึ้นติดตั้งบนรถเป็น ป.อัตตาจร คนที่ใช้จะลดลงเหลือเพียง 1+3 เท่านั้น.