MGRออนไลน์ -- ทางการนครโฮจิมินห์ได้ตัดสินใจ ล้มเลิกโคงการก่อสร้างรถบัสด่วนขนส่งมวลชน หรือ บีอาร์ที (Buss Rapid Transit) หลังจากมีผลการสำรวจศึกษาครั้งล่าสุด โดยสำนักขนส่ง พบว่าจำนวนผู้โดยสารที่สนใจ หรือ ต้องการจะใช้บริการขนส่งมวลชนชนิดนี้ มีจำนวนลดลงครึ่งต่อครึ่ง จากการสำรวจศึกษาในครั้งแรก และ สำนักงานขนส่งเสนอให้ คณะบริหารนครจัดรถเมล์คุณภาพดี (ปรับอากาศ) ให้บริการแทน
นี่คือโครงการรถ BRT สายแรกของนครใหญ่แห่งภาคใต้ มีมูลค่าก่อสร้างราว 114 ล้านดอลลาร์ หรือ กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะแล่นเป็นระยะทางราว 23 กิโลเมตรแนวตะวันออก-ตะวันตก ตามถนนสายสำคัญ 2 สายคือ หวอวันเกียต (Võ Văn Kiệt) บูลวาร์ด กับ มายจี๊เถาะ ( Mai Chí Thọ) บูลวาร์ด หลังจากรถบีอาร์ทีสายแรกของประเทศ ในกรุงฮานอย ที่เปิดให้บริการวันขึ้นปีใหม่ 2560 ยังไม่ประสบความสำเร็จ มีผู้ใช้บริการน้อย
ตามแผนการนั้น การก่อสร้างโครงข่ายรถบีอาร์ทีโฮจิมินห์ จะเริ่มในปีต้นปี 2562 หรืออีกปีเศษข้างหน้า แต่ผลการสำรวจศึกษาพบว่า จะมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยเพียง 10,200 คนต่อวันในปีแรก ลดลงจาก 24,700 คนต่อวันจากการสำรวจศึกษาครั้งแรก ซึ่งจำนวนผู้โดยสารขาดนี้ เท่าๆ กับผู้โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ธรรมดาต่อวัน และ บางสายจำนวนมากกว่านี้อีก ในขณะที่การลงทุนรถบีอาร์ทีต้องใช้งบประมาณมหาศาล
"ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้นครโฮจิมินห์ตัดสินใจ ไม่ดำเนินการสร้างรถบีอาร์ทีสายตะวันออกตะวันตกตามแผนการ และ จะหันไปเปิดบริการรถเมล์โดยสารคุณภาพ วิ่งให้บริการตามถนนสำคัญทั้งสองสายแทน" สำนักข่าวจิถึกแจ๋ (เยาวชนปัญญาชน) ออนไลน์ รายงานในวันอาทิตย์ 10 ก.ย.นี้
การเปิดให้บริการรถเมล์คุณภาพสูง แทบจะไม่มีการลงทุนในการก่อสร้างโครงสร้างเพิ่มเติมใดๆ ต่างจากรถบีอาร์ทีที่จะต้องทำอีกหลายเรื่อง รวมทั้งระบบจำหน่ายตั๋วโดยสารผ่านตู้อัตโนมัติ พัฒนายกระดับป้ายจอดให้มีร่มเงา หลบแดดหลบฝนได้ ฯลฯ นอกจากนั้นรถบีอาร์ที่ ต้องใช้เงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ หรือ ODA (Offical Development Assistance) จากต่างวประเทศในการลงทุน ซึ่งไม่ควรจะมีความเสี่ยงใดๆ
เพียงไม่กี่เดือนหลังเปิดให้บริการ รถบีอาร์ทีสายแรกในกรุงฮานอย ทางการเมืองหลวงได้พบว่า แทนที่จะช่วยแก้ปัญหาการจราจร บริการนี้กลับซ้ำเติมปัญหา เนื่องจากจะต้องจัดพื้นผิวจราจร 1 ช่องทางให้เป็นการเฉพาะ และ เมื่อไม่มีช่องทางวิ่งเฉพาะ รถบีอาร์ทีก็จะไม่ต่างไปจากรถเมล์โดยสารปรับอากาศธรรมดา ที่ต้องเสียเวลาบนท้องถนน ท่ามกลางการจราจรหนาแน่น ขณะที่ต้องจ่ายค่าโดยสารแพงกว่า
อย่างไรก็ตามรถบีอาร์ทีในเมืองหลวงยังคงให้บริการต่อมาจนทุกวันนี้ และ ยังเตรียมขยายเส้นทางเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะค่อยๆ ได้รับความนิยมขึ้นในปีที่สอง.