MGRออนไลน์/รอยเตอร์ -- อัยการแห่งสหพันธรัฐเยอรมนี ได้รับเอากรณีอื้อฉาวระหว่างเวียดนามกับเยอรมนี ไปดำเนินการสอบสวน ในวันพฤหัสบดี 10 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยฝ่ายเยอรมันกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของเวียดนาม ได้ลักพาตัวอดีตผู้บริหารบริษัทลูก ของกลุ่มบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ หรือ ปิโตรเวียดนาม (PetroVietnam) เมื่อเดือนที่แล้ว และ นำตัวกลับไปยังเวียดนาม ถึงแม้ว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ได้ออกปฏิเสธในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า บุคคลดังกล่าว ยอมเข้ามอบตัวต่อทางการเอง ก็ตาม
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สำนักงานอัยการแห่งสหพันธรัฐ กล่าวว่า จะทำการสอบสวน โดยพุ่งประเด็นไปยังความสงสัย เกี่ยวกับกิจกรรมด้านข่าวกรองของต่างชาติ กับ การล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพ อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้่การสอบสวนกรณีดังกล่าว ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการนครเบอร์ลิน
สำนักงานอัยการแห่งสหพันธรัฐ ระบุในคำแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นนายจิ่งซวนแทง (Trịnh Xuân Thanh) กับผู้ติดตาม ซึ่งเป็นสตรีที่ไม่ทราบชื่อ ถูกฉุดกระชากขึ้นรถ จากริมถนนสายหนึ่งในนครเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2560 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ และ เป็นไปได้ว่า คนทั้งสองถูกนำตัวไปยังสถานทูตเวียดนาม ก่อนนำกลับประเทศ
นายแทงเป็นอดีตประธานบริษัทปิโตรเวียดนามก่อสร้าง หรือ PetroVietnam Construction (PVC) เขาหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนถูกดำเนินคดีฐาน "ยักยอกทรัพย์สิน" กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ได้ออกหมายจับไปทั่วโลก ฐานกระทำผิด สร้างความเสียหายแก่รัฐ เป็นเงินประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ และ ตามล่านายแทงตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา
เวลาต่อมาได้ปรากฎว่า อดีตผู้บริหารสูงสุดของ PVC ขอลี้ภัยในเยอรมนี และ รัฐบาลเวียดนาม ได้ขอให้เยอรมนีส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อกลับไปดำเนินคดีในประเทศ แต่เยอรมนีกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ฝ่ายเวียดนามได้ยกเลิกคำร้องขอดังกล่าวแล้ว
รัฐบาลเยอรมนีกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า กำลังพิจารณาหามาตรการ เพื่อดำเนินการต่อไปหากเวียดนาม ไม่ยอมส่งตัวนายแทงกลับไปยังเยอรมนี
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี กล่าวหาเวียดนามว่า ได้ทำการลักพาตัวนายแทง อันเป็นเหตุการณ์ที่คล้าย กับเหตุสูญหายต่างๆ ในยุคสงครามเย็น ที่เคยเกิดขึ้นในเมืองหลวงของเยอรมนี ในยุคที่ยังแบ่งแยกเป็นตะวันออก-ตะวันตก เป็นการละเมิดกฎหมายของเยอรมนี อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และ เยอรมนีกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า จะดำเนินมาตรการขั้นต่อไป โดยย้ำว่าเวียดนามได้รับการช่วยเหลือ เพื่อการพัฒนาจากรัฐบาลเยอรมันเป็นเงินจำนวนมาก
ในปี 2558 เยอรมนีได้ให้คำมั่น จะช่วยเหลือเวียดนาม 220 ล้านยูโร (257.80 ดอลลาร์) เยอรมนียังเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ของเวียดนามในสหภาพยุโรป และ ทั้งกลุ่มกำลังพิจารณาทำความตกลงการค้าเสรีกับเวียดนาม
อย่างไรก็ตามระหว่างการแถลงข่าวปรกติ ในวันพฤหัสบดี 3 ส.ค. นางเล ถิ ทู หั่ง (Lê Thị Thu Hằng) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ได้กล่าวแสดงความเสียใจ ที่ได้ทราบเกี่ยวกับการกล่าวหาของเยอรมนี ทั้งอธิบายว่า นายแทงซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่รัฐ จาก จ.เหิ่วซยาง (Hậu Giang) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง ได้ "เข้ามอบตัว" ต่อทางการเวียดนาม เมื่อ 3 วันก่อน
"เวียดนามเคารพ และปรารถนาจะพัฒนาการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับเยอรมนี" โฆษกของเวียดนามกล่าว
ในเดือน ก.ย.2559 กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนาม ได้ออกหมายจับนายแทงไปทั่วโลก
รอยเตอร์รายงานในวันพฤหัสบดีนี้่ว่า สัปดาห์ที่แล้วนายแทงได้ออกรายการโทรทัศน์ รายการหนึ่งในเวียดนาม และ เจ้าตัวระบุว่า เมื่อก่อนตนเองไม่ได้คิดแบบผู้ใหญ่ และ ได้ตัดสินใจหลบหนี แต่ในช่วงที่ผ่านมา "ผมได้ตระหนักว่า ควรกลับไปเผชิญกับความจริง และ .. ยอมรับความผิด และ ขอโทษ"
รอยเตอร์กล่าวว่า ยังไม่เป็นที่ชัดเจนในขณะนี้ นายแทงพูดเช่นนั้น อย่างอิสระเสรีหรือไม่อย่างไร.