เอเอฟพี/รอยเตอร์/โดยโสงฟ้าบหลวต - หนึ่งในผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ตามการประกาศของพรรคเมื่อวันอาทิตย์ (7) จากการถูกกล่าวหาว่า บริหารจัดการกิจการด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศผิดพลาด ขณะดำรงตำแหน่งเป็นประธานของบริษัทเมื่อกว่า 6 ปีก่อน
ดีง ลา ทัง (Dinh La Thang) อายุ 56 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่ง ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมอย่างสูงจากประชาชนทั้งประเทศ และเป็นหนึ่งในสมาชิก 19 คน ของคณะกรรมการกรมการเมืองพรรค (Politburo) ซึ่งเป็นคณะทำงานที่มีหน้าที่พิจารณาตัดสินใจสูงสุด ของพรรคคอมมิวนิสต์ ถูกปลดให้พ้นจากตำแหน่งผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปิโตรเวียดนาม (PetroVietnam) ไปก่อนหน้านี้ ตามคำแถลงของพรรค
“เขาทำผิดพลาด และละเมิดกฎระเบียบอย่างร้ายแรงระหว่างการจัดการ และการเป็นผู้นำของเขา ก่อให้เกิดผลกระทบเลวร้ายต่อชื่อเสียงขององค์กรพรรคสาขา” คำแถลง ระบุ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายรายถูกดำเนินคดีจากการทุจริตคอร์รัปชัน และไร้ความสามารถในการบริหารกิจการของรัฐที่อื้อฉาวด้วยเรื่องการติดสินบน แต่ดีง ลา ทัง เป็นเจ้าหน้าที่พรรคระดับสูงที่สุด ที่ถูกปลดจากตำแหน่งในช่วงหลายปีมานี้
ดีง ลา ทัง ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัทปิโตรเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปี 2554 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในเวลาต่อมา หลังจากนั้น ได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของคณะกรรมการกรมการเมืองในปี 2559 และยังเป็นเลขาธิการพรรคสาขานครโฮจิมินห์ ที่โดยปกติพรรคได้สงวนไว้ให้แก่กรมการเมืองในระดับต้นๆ
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. คณะกรรมการตรวจตรา คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ระบุว่า ดีง ลา ทัง เป็นผู้รับผิดชอบโครงการผิดกฎหมายจำนวนมาก รวมทั้งความสูญเสียทางการเงินครั้งใหญ่ของบริษัทปิโตรเวียดนาม และยังกำกับดูแลการเข้าถือครองหุ้นจำนวนมากในธนาคารโอเชียน ของบริษัทโอเชียน กรุ๊ป ซึ่งผู้ก่อตั้งธนาคาร และอดีตประธานธนาคารถูกจับกุมตัวไปเมื่อปี 2557
การปลด ดีง ลา ทัง พ้นกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เวียดนามกำลังพยายามอย่างหนักที่จะสะสางภาคส่วนรัฐวิสาหกิจที่ไร้ประสิทธิภาพมานานหลายปี และผู้นำประเทศได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่ ทำให้ในช่วงหลายปีมานี้มีการจับกุม และดำเนินคดีต่อนักธุรกิจที่ร่ำรวย และผู้บริหารระดับสูงจำนวนมาก
แต่บริษัทปิโตรเวียดนามไม่ใช่รายแรกที่ถูกตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อปีก่อน พนักงานระดับสูง 4 คน ของบริษัทก่อสร้างในเครือของปิโตรเวียดนาม ถูกดำเนินคดีจากการบริหารจัดการผิดพลาด ที่ถูกกล่าวหาว่า ทำให้บริษัทสูญเงินไป 150 ล้านดอลลาร์ ปีเดียวกันนั้น ศาลยังได้ตัดสินลงโทษ อดีตประธานธนาคารก่อสร้างเวียดนาม และพนักงานอีก 35 คน ฐานขโมยเงินจากธนาคารร่วมทุนไปมากกว่า 400 ล้านดอลลาร์
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติจัดให้เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 113 จากทั้งหมด 176 ประเทศ ในดัชนีการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นอันดับที่แย่กว่าไทย ฟิลิปปินส์ และพม่า ที่เป็นเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ตาม นายทัง ยังคงเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรค รวมทั้งiรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการพรรคสาขาโฮจิมินห์ อยู่ต่อไป โดยการลงมติของคณะกรรมการพรรคที่กำลังประชุมเต็มคณะสมัยต้นปี ตั้งแต่ในวันศุกร์ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา
ตามรายงานของสื่อทางการ คณะกรรมการกลางพรรคมีมติร่วมกันว่า เนื่องจากนายทัง ได้รับเลือก เข้าสู่คณะกรรมการกลางพรรค จากที่ประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อต้นปีที่แล้ว ด้วยคะแนนกว่า 90% จึงถูกลงโทษให้พ้นจากองค์กรอำนาจสูงสุดของพรรค และว่ากล่าวตักเตือน แต่สมควรอยูในตำแหน่งเลขาธิการพรรคต่อไป และยังปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการพรรคสาขานครโฮจิมินห์ต่อไป
การลงโทษทางวินัยแก่นายทัง ในครั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติในธรรมนูญของพรรคคอมมิวนิสต์ และตามคำสั่งของ นายเหวียน ฝู จ่อม เลขาธิการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ออกคำสั่งว่ากล่าวตักเตือนในครั้งนี้ด้วย
ดีง ลา ทัง ถือเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงทางการเมืองอีกคนหนึ่งในพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ชอบด้วยกฎหมายเพียงพรรคเดียว
เรียนสำเร็จปริญญาดุษฎีบัณฑิต และได้สร้างชื่อเสียง ได้รับความนิยมจากประชาชนทั้งประเทศ ที่เอือมระอาต่อการทุจริตคอร์รัปชัน ในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรค และรัฐ
นายทัง เป็นแบบอย่างของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความตรงไปตรงมา โปร่งใส และซื่อสัตย์ ในขณะเป็นผู้กำกับดูแลกระทรวงใหญ่ที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการก่อสร้างถนน สะพาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทางด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ รวมทั้งโครงการที่ใช้จ่ายเงิน ODA หรือความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Offical Development Assistance) จากรัฐบาลประเทศต่างๆ และองค์การที่เคยเป็นเรื่องอื้อฉาวมาหลายครั้ง ในช่วงกว่า 10 ปีมานี้
ในเดือน ก.พ.2559 คณะกรรมการกลางพรรคชุดปัจจุบันได้ลงมติเลือกนายทัง เข้าสู่กรมการเมือง และกรมการเมืองได้เลือกให้ไปเป็นเลขาธิการพรรคสาขานครโฮจิมินห์ นครศูนย์กลางเศรษฐกิจและการลงทุนในภาคใต้ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชน กับระบบคมนาคมขนาดใหญ่นับสิบโครงการ
นายทัง เริ่มมีชื่อเสียงในช่วงปี 2544-2546 เมื่อครั้งมีตำแหน่งเป็นประธานบริษัทแม่น้ำดำ หรือ ซ่งด่า (Song Da Corp) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจก่อสร้างขนาดใหญ่ และประสบความสำเร็จมาก ทั้งก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ ระบบชลประทานของรัฐ รวมถึงการก่อสร้างถนน และสะพานในภาคเหนือของประเทศ
ในช่วงปี 2546-2548 นายทัง ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ สาขา จ.เถือะเทียนเหว (Thua Thien Hue) ก่อนได้รับเลือกเป็นประธานรัฐวิสาหากิจปิโตรเวียดนาม และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่งตามลำดับ.