เอเจนซีส์ - สื่อเมืองเบียร์รายงานว่า มีผู้อพยพประมาณ 55,000 รายที่สมัครใจเดินทางออกจากเยอรมนีในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2016 หลังถูกปฏิเสธการขอลี้ภัยหรือขาดคุณสมบัติเหมาะสม ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าของปี 2015 ราว 20,000 ราย
เยอรมนีมีท่าทีเข้มงวดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากกังวลในเรื่องความปลอดภัยและการปรับตัวให้เข้ากันได้ หลังรับผู้อพยพมากกว่า 1.1 ล้านคน นับตั้งแต่ต้นปี 2015
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ขอลี้ภัยรายหนึ่งที่ภักดีต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ขับรถบรรทุกพุ่งชนคนที่ตลาดคริสต์มาสในเบอร์ลิน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายรับผู้อพยพของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล มากยิ่งขึ้น
หนังสือพิมพ์ซุดดอยช์ ไซตุ้ง ได้อ้างอิงข้อมูลของรัฐบาลเยอรมนีที่แสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ที่เดินทางกลับบ้านในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ส่วนใหญ่เดินทางกลับไปแอลเบเนีย เซอร์เบีย อิรัก โคโซโว อัฟกานิสถาน อิหร่าน ผู้ที่สมัครใจเดินทางออกจากเยอรมันเหล่านั้นจะได้รับเงินช่วยเหลือมากถึง 3,000 ยูโร
เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเยอรมนีเคยบอกรอยเตอร์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ผู้ที่ถูกส่งตัวออกนอกประเทศหลังจากคำขอลี้ภัยถูกปฏิเสธมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 23,800 ราย ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2016 จากเดิมที่มีประมาณเกือบ 20,900 รายในปี 2015
นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ลี้ภัยที่ถูกกันไม่ให้เข้าเยอรมนีเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยทางสื่อเมืองเบียร์รายงานว่า ตำรวจได้กันไม่ให้ผู้ลี้ภัย 19,720 รายเดินทางเข้าประเทศในช่วง 11 เดือนแรก คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากอัฟกานิสถาน ซีเรีย อิรัก ไนจีเรีย โดยมีการลงทะเบียนไว้ที่ประเทศอื่นในยุโรป
ขณะที่แรงสนับสนุนจากสาธารณชนในเรื่องนโยบายช่วยผู้ลี้ภัยของเธอกำลังเสื่อมถอยก่อนถึงการเลือกตั้งส่วนกลาง แมร์เคิลบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเน้นไปที่เรื่องทรัพยากรแก่ผู้หนีภัยสงครามเหล่านั้น และยังจะต้องรักษาการสนับสนุนจากสาธารณชนเอาไว้ด้วยการส่งกลับภูมิลำเนาสำหรับผู้ลี้ภัยที่มาจากประเทศที่ไม่มีการสู้รบ
เหตุโจมตีหลายครั้งและการเตือนภัยด้านความมั่นคงที่เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยในปีนี้ ได้ทำให้พรรคการเมืองที่มีนโยบายต่อต้านผู้อพยพได้รับแรงสนับสนุนมากขึ้น ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อความหวังที่จะลงเลือกตั้งอีกครั้งของแมร์เคิล