โลกจับตารัสเซียส่งเรือพิฆาตเยือนไทยอีกลำ เป็นปีที่สองติดต่อกันความสัมพันธ์พัฒนาเร็ว

MGRออนไลน์ -- เว็บไซต์ข่าวกลาโหมในภูมิภาคต่างทั่วโลก พากันจับตา การแวะเยี่ยมเยือนสันถวไมตรีประเทศไทย ของเรือรบสังกัดกองเรือแปซิฟิกรัสเซีย เรื่องนี้ดูได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่กระทรวงกลาโหมในกรุงมอสโก ออกแจ้งการในวันที่ 2 ธ.ค.ให้ทราบว่า กองเรือที่นำโดยเรือแอดมิรัลทริบุตส์ (Admiral Tributs) ได้เดินทางถึงฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งทำให้นักสังเกตการณ์หลายคนมองว่า เป็นอีกก้าวหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับ นับตั้งแต่คณะปกครองที่นำโดยกองทัพ เข้าบริหารประเทศต้นปี 2557

กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า "โครงการเยี่ยมเยือนราชนาวีไทยครั้งนี้ เปิดโอกาสให้คณะนำของ กองเรือแปซิฟิกกับฝ่ายอำนวยการของราชนาวีไทย ตลอดจนทางการในท้องถิ่นได้พบปะกัน และ ลูกเรือได้เติมเสบียงอาหารกับน้ำ ได้พักผ่อน และ เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ"

กองเรือนี้ ซึ่งรวมทั้งเรือบอริส บูโทมา (Boris Butoma) ซึ่งเป็นเรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ ได้ปฏิบัติภารกิจในทะเล มาตั้งแต่เดือน ต.ค. โดยเรือได้รับมอบหมายภารกิจการสู้รบ ในย่านมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย และ ได้เข้าร่วมในงานนิทรรศการกับการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ในประเทศอินโดนีเซีย นี่คือรายงานทั้งหมดในเว็บไซต์กระทรวงวกลาโหมรัสเซีย

ผู้สังเกตุการณ์ในโซนยุโรปคนหนึ่ง ชี้ว่า นี่เป็น "การเยือน" ที่ไม่ปรกติธรรมดา และ การที่ "ลูกเรือได้เติมเสบียงอาหารกับน้ำ ได้พักผ่อนและเที่ยวชมสิ่งต่างๆ" นั้่น เป็นการแสดงถึงการกระชับความสัมพันธ์ ระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ความร่วมมือ ทางการเมืองและการทูตในระดับชาติ ที่ได้รับการเสริมขยาย สู่ระดับสูงขึ้น

บางคนกล่าวว่า ถึงแม้กองเรือรัสเซียในยุคใหม่ จะสามารถแวะใช้บริการแบบเดียวกันนี้ในอีกหลายเมืองท่า ในย่านเดียวกัน ทั้งในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่มีความสัมพันธ์ความร่วมมือด้านกลาโหมใกล้ชิดกับรัสเซีย แต่กับประเทศไทย ที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐมากที่สุดอีกชาติหนึ่ง ความร่วมมือกับรัสเซียในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมดาทั่วไป

บางคนได้ยกอีกเหตุการณ์หนึ่งในทวีปยุโรป เมื่อไม่นานมานี้ ขึ้นมาเปรียบเทียบ นั่นคือ กรณีรัฐบาลสเปน ซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต้ที่ใกล้ชิดสหรัฐ มากที่สุดชาติหนึ่ง ถูกกดดันจากรอบทิศ และ ในที่สุดก็ต้องประกาศ ไม่ยอมให้เรือรบรัสซียลำหนึ่ง แวะจอดเติมเชื้อเพลิง ในประเทศนั้น

ตามรายงานของสื่อทางการรัสเซีย ก่อนหน้านี้เรือแอดมิรัลทริบุตส์ กับเรืออื่นๆ อีก 3 ลำ ซื่งได้แก่เรือพิฆาตบีสตรีส์ (Bystriy) กับเรือบอริส บูโทมา และ เรือ อาลูตาว (Alutau) ซึ่งเป็นเรือลากจูง ได้ไปเยือนอินโนโดนีเซีย เพื่อร่วมงาน Indo Defence 2016 Expo & Forum ที่นั่น และ เข้าร่วมฝึกซ้อมกับกองทัพเรือประเทศเจ้าภาพในเวลาต่อมา

ก่อนหน้านั้นในเดือน ก.ย. เรือทริบุตซ์ กับเรืออื่นๆ ของกองเรือแปซิฟิก อีกหลายลำ ได้เข้าร่วมการฝึกซ้อมกับกองทัพเรือจีน ในทะเลจีนใต้

เรือแอดมิรัลทริบุตส์ ขนาด 6,900 ตัน ต่อขึ้นตามโครงการ 1155 (Project 1155) ในยุคสหภาพโซเวียต ซึ่งเรียกชื่อเรือในโครงการนี้ว่า "เฟรกัต" (Fregat Bird) อันหมายถึงนกทะเลชนิดหนึ่ง แต่องค์การสนธิสัญญาร่วมป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ เรียกว่า เรือพิฆาตชั้นอูดาลอย 1 (Udaloy I-Class) โดยเรียกตามเรือต้นของโครงการ

เรือทริบุตส์เป็นหนึ่งในบรรดา "เรือปราบเรือดำน้ำขนาดใหญ่" จำนวน 8 ลำที่ยังใช้มาจนถึงในปัจจุบัน จากที่ต่อทั้งหมด 12 ลำซีรีส์เดียวกัน เป็นเรือรบที่ติดระบบเรดาร์ และ ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี เน้นทำสงครามต่อต้านเรือดำน้ำเป็นหลัก ก่อนจะต่อลำที่ 13 ออกมาเป็น เรือชั้นอูดาลอย 2 เป็นเรือรบติดระบบอิเล็กทรอนิกส์ และ ระบบอาวุธ อีกแบบหนึ่ง เพื่อทำสงครามผิวน้ำและต่อสู้อากาศยาน เสริมกำลังกับเรือพิฆาตอีกชั้นหนึ่งที่มีอยู่
.

2

บรรจุเข้าประจำการปลายปี 2528 หรือใช้งานมาเป็นเวลากว่า 30 ปี เคยเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บนเรือครั้งหนึ่งเมื่อปี 2544 ซ่อมกลับมาใช้ได้อีกครั้ง เป็นหนึ่งในบรรดาเรือพิฆาต และ เรือดำน้ำ จนถึงเรือพิฆาตขนาดใหญ่ (เรือลาดตระเวณ) จำนวน 20 ลำ ที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียจะซ่อมแซม และ อัปเกรด ติดระบบอิเล็กทรอนิกส์ และ ระบบอาวุธนำวิถีที่ทันสมัยยิ่งขึ้น

การเยือนไทยของเรือทริบุตส์ เป็นเหตุการณ์ที่มีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว รัสเซียได้ส่งเรือแอดมิรัลแพนเทเลเยฟ (Admiral Panteleyev) มาแวะเยือนฐานทัพเรือสัตหีบ ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ในโอกาสที่กองเรือแปซิฟิก ส่งเรือออกเยี่ยมเยือนสันถวไมตรีกับประเทศในแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเวียดนาม กับมาเลเซียด้วย

ครั้งนั้นฝ่ายเจ้าภาพไทย กับรัสเซียได้เห็นพ้องกัน ที่จะให้การเยือนของกองเรือแปซิฟิกรัสเซีย มีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

เรือแพนเทเลเยฟเป็นลำที่ 12 ของเรือพิฆาตชั้นอูดาลอย 1 เป็นอีกลำหนึ่งที่คุ้นเคยกันมากที่สุดในภูมิภาคนี้ เนื่องจากแล่นลาดตระเวณ ผ่านย่านนี้อย่างเป็นปรกติ เคยไปแวะเยี่ยมเยือนเวียดนามมาหลายครั้ง หลังยุคสงครามเย็นผ่านไป และ หลังจากโซเวียตทิ้งฐานทัพอ่าวกามแรง (Cam Ranh)

หลังจากแวะเยือนฐานทัพเรือสัตหีบเป็นเวลา 5 วัน เรือแพนเทเลเยฟ ได้ออกเดินทางต่อไป เพื่อเข้าร่วมงานแสดงอาวุธยุโธปกรณ์ ทางอากาศและทางเรือ LIMA 2015 ที่ลังกาวี มาเลเซีย

ทั้งสองเหตุการณ์ในช่วง 2 ปีนี้ นับเป็นสิ่งบ่งชี้ เกี่ยวกับสายสัมพันธ์ด้านการป้องกันประเทศ ระหว่างไทยกับรัสเซีย ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากนายดิมิตริ เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เดินทางมาเยือนไทยปีที่แล้ว ติดตามมาด้วยการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคณะ รวมทั้งการไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหมของไทย

เวลาต่อมา นายกรัฐมนตรีไทย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ได้ถือโอกาสเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ ในโอกาสไปร่วมประชุมรัสเซีย-อาเซียน ผู้นำไทยได้รับการต้อนรับอันอุบอุ่นจากฝ่ายเจ้าภาพ สองฝ่ายได้หารือข้อราชการกันในหลายประเด็น รวมทั้งความร่วมมือในด้านการป้องกันประเทศด้วย

ปัจจุบันไทยเป็นลูกค้าเฮลิคอปเตอร์ Mi-17 ที่ผลิตในรัสเซีย ตามรายงานของสื่อทางการเซียนั้น กองทัพบกไทยที่มีประจำการอยู่แล้วจำนวน 5 ลำ ได้จัดหา ฮ.รุ่นเดียวกันนี้ เพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ฝ่ายไทยยังสนใจเครื่องบินอีกรุ่นหนึ่ง เพื่อภารกิจการดับเพลิงอีกด้วย ในขณะที่กองทัพอากาศไทย จัดหาเครื่องบิน ซูคอย "ซูเปอร์เจ็ต" โดยสั่งซื้อไปจำนวน 3 ลำ และ รัสเซียส่งมอบ 2 ลำแรกในปีนี้.
.

เรือแอดมิรัลทริบุตส์ เข้าจอดที่ฐานทัพเรือสัตหีบ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับเรือบอริส บูโทมา ซึ่งเป็นเรือเติมน้ำมันขนาดใหญ่ สถานทูตรัสเซียในกรุงเทพฯ กล่าวว่า ฐานทัพเรือสัตหีบและราชนาวีไทย ได้จัดพิธีต้อนรับเรือรัสเซีย "อย่างเคร่งขรึม" ที่บริเวณท่าเทียบเรือ โดยมีนายคิริล บาร์สกี้ (Kirill Barsky) เอกอัครรัฐทูตประจำประเทศไทย พ.อ.อันเดร อเล็กซีฟ (Andrey Alekxeev) ผู้ช่วยทูตทหาร เข้าร่วมพิธี พร้อมกับนายทหารระดับสูงของฐานทัพเรือสัตหีบ หลังจากนั้น พล.ร.ต.เอดวร์ด มิไคลอฟ (Eduard Mikhailov) ผู้บังคับการกองเรือ ได้เรียนเชิญเอกอัครรัฐทูตรัสเซีย ขึ้นบนเรือแอดมิรัลทริบุตส์ ซึ่งมีพิธีจัดทหารกองเกียรติยศต้อนรับอีกครั้งหนึ่ง เรือพิฆาตรัสเซียอยู่เยือนเป็นเวลา 5 วัน ให้ลูกเรือได้พักผ่อน เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และ แข่งขันกีฬาฟุตบอลกับฝ่ายไทย ทั้งยังเปิดให้ประชาคมชาวรัสเซียในประเทศไทย กับอีกหลายคณะได้เยี่ยมชม แต่เป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากสื่อกลาโหมทั่วโลก. -- Photos Courtesy of Embassy of the Russian Federation.

3

4

5

6

7

8

9