MGRออนไลน์ - รัสเซีย จะส่งเครื่องบินโดยสารแบบซูคอย “ซูเปอร์เจ็ต-100” (SSJ-100) ให้กองทัพอากาศไทยตามกำหนดสองลำในปีนี้ สำนักข่าวทางการรัสเซียรายงาน อ้างนายเดนิส มันตูรอฟ (Denis Mantrurov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหรรม ซึ่งย้ำด้วยว่า สัญญาของผู้จำหน่ายอากาศยานรัสเซียนั้นมีความสำคัญ
“ที่จะส่งมอบ (สองลำ) ต่อไป เป็นสัญญากับกองทัพอากาศไทย” สำนักข่าวทาสส์ อ้างรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ในวันพุธ ที่ผ่านมา ในนครเซ็นปีเตอร์สเบิร์ก วันเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางเยือน
“เราได้ให้ความสำคัญ ไม่เพียงแต่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น หากรวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องทั่วไปด้วย - บริษัทเช่า ธนาคาร และสถาบันการเงินต่างๆ” นายมันตูรอฟ กล่าว
สำนักข่าวแห่งเดียวกันนี้ รายงานในเดือน ธ.ค.2557 ว่า กองทัพอากาศไทยเซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินโดยสารที่บินระยะปานกลาง จำนวน 3 ลำ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ซูคอย เซ็นสัญญาจำหน่ายให้แก่สายการบินอีกจำนวนหนึ่ง เวลาต่อมา ฝ่ายไทยจึงได้เปิดเผยรายละเอียดให้ทราบว่า SSJ-100 จะจัดคอนฟิกูเรชันวีไอพี สำหรับเป็นเครื่องบินพระที่นั่ง และรับส่งบุคคลสำคัญ
บริษัทผลิตเครื่องบินพลเรือนซูคอย (Sukhoi Civil Aircraft Company) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2543 เพื่อสร้างเครื่องบินโดยสารที่บินเชื่อมปลายทางในระดับภูมิภาค (Regional Jet) บริษัทนี้ยังรับผิดชอบจัดจำน่ายทั้งในรัสเซีย ประเทศอดีตสาธารณรัฐแห่งสหภาพโซเวียตทั้งมวล รวมทั้งจีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
เครื่อง SSJ-100 บรรทุกผู้โดยสาร ระหว่าง 68-103 คน มีรัศมีการบินไกล 6,000 กม. ราคาพื้นฐานลำละ 27-28 ล้านดอลลาร์ (ตัวเลขปีนี้) เป็นอากาศยานก้าวหน้าที่สุดอีกรุ่นหนึ่ เปิดสายการผลิตในปี 2550 โดยใช้ส่วนหนึ่งของโรงงานผลิตเครื่องบินรบซูคอยในไซบีเรีย ปัจจุบัน มียอดผลิตรวมทั้งสิ้น 104 ลำ บริษัทผู้ผลิตเคยมีแผนการจะสร้างออกมาให้ได้ถึง 1,000 ลำ ภายในปี 2563 นี้
เครื่องบินออกแบบ และพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีของบริษัทตะวันตก มีรูปลักษณ์สวยงามทันสมัย ใช้ระบบควบคุมการบิน และเครื่องยนต์จากกลุ่มบริษัทอากาศยานชั้นนำของฝรั่งเศส หุ้นส่วนในการผลิตยังรวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานขนาดใหญ่ของอิตาลี และบริษัทโบอิ้งสหรัฐฯ ด้วย
เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2555 ซูเปอร์เจ็ตลำหนึ่ง ที่อยู่ระหว่างการตระเวนบินสาธิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบอุบัติเหตุบินชนภูเขา บนเกาะชวา ห่างจากกรุงจาการ์ตา 60 โลเมตรเศษ คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด ประกอบด้วย นักธุรกิจอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซีย และสื่อมวลชน สถานทูตรัสเซียในจาการ์ตา กล่าวว่า มีชาวรัสเซียบนเครื่อง 8 คน รวมทั้งนักบิน และช่างประจำเครื่อง
ผลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้พบว่า เป็นความบกพร่องของนักบินชาวรัสเซียวัย 67 ปี ถึงแม้ว่าจะเป็นนักบินที่เปี่ยมประสบการณ์ และก่อนจะเกิดโศกนาฏกกรรม ยังบินสาธิตในอินโดนีเซียมาแล้วถึง 2 รอบ
ซูเปอร์เจ็ตลำดังกล่าวมีกำหนดจะไปบินสาธิตในเวียดนามเป็นแห่งต่อไป ก่อนจะเข้าลาวเป็นประเทศสุดท้าย แต่ไม่มีโอกาส และซูคอยประกาศยกเลิกการบินสาธิตทั้งหมด.