"ฮุนเซน" ส่งสาส์นหวานเจี๊ยบสมแรงเชียร์ เชื่อสนิทใจ "ทรัมป์" ใฝ่สันติ

MGRออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ไม่ผิดหวังที่เชียร์ให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าครองทำเนียบขาว และ กุมชะตากรรมสหรัฐ เป็นมิตรสนิทกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สร้างสันติภาพโลก สัปดาห์นี้ผู้นำที่ครองอำนาจมายาวนานกว่า 30 ปี และ ไม่เคยเชื่อว่าตนเองเป็นเผด็จการ ได้ส่งสาส์นแสดงความยินดีกับว่าที่ ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่

"ในนามรัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชา และ ประชาชนชาวกัมพูชา ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีต่อ ฯพณฯ ท่าน ในโอกาสที่ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ขอได้โปรดรับความปรารถนาดีแห่งความสำเร็จจากข้าพเจ้า ในขณะที่ ฯพณฯ กำลังเตรียมการเพื่อเข้ารับผิดชอบ ตามหน้าที่อันทรงเกียรติของ ฯพณฯ " ฮุนเซนระบุในสาส์น ลงวันที่ 9 พ.ย. ที่ส่งนายทรัมป์

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เผยแพร่สาส์นของผู้นำ ต่อสาธารณชนในวันพฤหัสบดี 10 พ.ย. นี้

"ข้าพเจ้าไม่มีความกังขาใดๆ ว่า ความเชื่อมั่นที่ประชาชนชาวอเมริกันมีต่อ ฯพณฯ นั้น จะบันดาลใจให้ ฯพณฯ ดำเนินทุกความพยายาม ในการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา และ ความมั่นคงปลอดภับ กับความเจริญรุ่งเรือง ในทั่วโลก"

นรม.กัมพูชายังกล่าวอีกว่า ประเทศและประชาชนของเขา พร้อมที่จะร่วมมือ ความพยามของนายทรัมป์ ในทุกเรื่องและทุกระดับ และ ตนเองจะทำงานกับนายทรัมป์อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ทั้งนี้เพื่อจรรโลงวิถีแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ กับ ความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งมวล

ในทันที่ที่ทราบผลการเลือกตั้ง ในวันที่ 9 พ.ย. (ตามเวลาในท้องถิ่น) ฮุนเซนได้เขียนลงในเฟซบุ๊ก อย่างไม่รีรอ แสดงความยินดีต่อชัยชนะของนายทรัมป์

"หลายวันก่อนข้าพเจ้าได้ กล่าวสนับสนุนการลงแข่งขันของท่าน และ ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เกี่ยวกับตัวข้าพเจ้าเอง และกล่าวหาว่าท่านเป็นเผด็จการ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเผด็จการด้วยกัน ซึ่งหมายถึงข้าพเจ้า"

"ในนาทีนี้ผู้ออกเสียงชาวอเมริกัน ได้แสดงให้เห็นตัวเลือกของพวกเขา เลือกตั้ง ฯพณฯ การที่ข้าพเจ้าสนับสนุนท่าน จึงไม่มีอะไรผิดเช่นกัน"

ที่ผ่านมา นรม.กัมพูชา เคยกล่าวสนับสนุนนายทรัมป์ต่อสาธาณชนถึงสองครั้งสอง คือ เมื่อวันที่ 3 และ 7 พ.ย. ในต่างสถานที่กัน

ฮุนเซนกล่าวว่านายทรัมป์สามารถเป็นเพื่อน กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ ซึ่งจะช่วยจรรโลงสันติภาพโลก และ ในระหว่างเล็คเช่อร์ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จ.กันดาล ในหัวข้อ "การบัญชากำลัง สถานการณ์ภายในและระหว่างประเทศ และเรื่องอื่นๆ" นั้น นรม.กัมพูชากล่าวว่า ถ้าหากนายทรัมป์ชนะ สถานการณ์ของโลกจะดีขึ้น ปราศจากสงคราม เนื่องจากเป็นนักธุรกิจ

สำหรับฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของนายทรัมป์ จากพรรคเดโมแคร็ตนั้น ดูเหมือนว่าฮุนเซนจะไม่ประทับใจเอามากๆ เนื่องจากได้วิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาลกัมพูชามาโดยตลอด และรัฐบาลสหรัฐ ภายใต้นายบารัค โอบามา ก็ได้วิจารณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชน กับ การปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองในกัมพูชา ตลอดมาเช่นกัน

เมื่อเดินทาง เยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกในเดือน พ.ย.2551 นางคลินตัน ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้สื่อไปยังรัฐบาลฮุนเซน อย่างตรงไปตรงมาว่า ควรดำเนินนโยบายเป็นอิสระ ไม่ขึ้นต่อจีนจนเกินไป

เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้เรียกเอกอัครรัฐทูตสหรัฐ นายวิลเลียม ทอดด์ ไปรับหนังสือเตือน ที่ใช้ถ้อยคำรุนแรง หลังจากได้วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมาย ว่าด้วยองค์กรภาคเอกชนที่ไม่สังกัดรัฐบาล ซึ่งหลายฝ่ายแสดงความห่วงใยว่า กัมพูชาจะควบคุมการทำงานของเอ็นจีโอในประเทศ

นายฮอร์นัมฮอง รมว.ต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า เอกอัครรัฐทูตสหรัฐกระทำการแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา ที่อยู่นอกเหนือการทำหน้าที่ของทูต

รัฐบาลฮุนเซนกล่าวว่า ร่าง พรบ.ดังกล่าว ไม่ได้เป็นการจำกัดสิทธิ์ใดๆ หากเป็นการจัดระบบระเบียบ องค์กรเหล่านั้น ป้องกันมิให้ฝ่ายที่ไม่ประสงค์ดี แทรกตัวเข้าไปปฏิบัติงานในกัมพูชา.