เอเอฟพี - พม่ากำลังดิ้นรนที่จะสร้างประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ในประเทศหลังอยู่ภายใต้การปกครองของทหารนาน 50 ปี อองซานซูจี เผยภายหลังเกิดเหตุปิดล้อมทางทหารในรัฐยะไข่
สื่อทางการพม่าระบุว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยได้สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 29 ราย ในการปิดตายทางทหารหลังเกิดเหตุโจมตีฐานรักษาความปลอดภัยของตำรวจตามแนวชายแดนบังกลาเทศ ที่รัฐบาลได้กล่าวโทษว่า กลุ่มก่อความไม่สงบมุสลิมหัวรุนแรงอยู่เบื้องหลัง
พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่อยู่ของชาวโรฮิงญาจำนวนมาก ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
“เราเป็นชาติที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนที่จะสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยให้หยั่งรากลึก” ซูจี กล่าว
“เรามีปัญหาความท้าทายจำนวนมากที่ต้องรับมือ แต่เรามั่นใจว่าความท้าทายเหล่านี้จะสามารถเอาชนะได้เพราะความมุ่งมั่นของประชาชน” ซูจี กล่าวต่อผู้สื่อข่าว
แม้ในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ซูจี จะถูกควบคุมตัวภายในบ้านพัก แต่ในเวลานี้ซูจีมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และที่ปรึกษาแห่งรัฐ บทบาทที่เหมือนกับนายกรัฐมนตรีของประเทศ
แต่พม่ายังคงประสบต่อปัญหาความรุนแรงทางศาสนา และชาติพันธุ์ และซูจีเองยังทำให้ผู้สนับสนุนบางส่วนต้องรู้สึกผิดหวังจากการปฏิเสธที่จะยอมรับชาวโรฮิงญาเป็นพลเมืองตามกฎหมาย
ชาวโรฮิงญาไร้สัญชาติหลายหมื่นคนต้องติดอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่น และถูกจำกัดความเคลื่อนไหว รวมทั้งการเข้าถึงบริการพื้นฐานต่างๆ
ซูจี กล่าวว่า ประเทศของเธอต้องเผชิญต่อการขาดสันติภาพ และเสถียรภาพมาเป็นเวลาหลายสิบปี และหวังให้อินเดียช่วยเหลือในการพัฒนาประชาธิปไตย เมื่อครั้งที่เดินทางเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวตอบรับว่า อินเดียจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพม่า