รอยเตอร์ - พม่าปลดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความปลอดภัยชายแดนติดกับบังกลาเทศที่ประสบปัญหา หลังเกิดเหตุโจมตีรุนแรงที่นำไปสู่การต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่คาดว่าได้แรงบันดาลใจจากกองกำลังชาวมุสลิมหัวรุนแรง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตไป 9 นาย หลังฐานตำรวจชายแดน 3 แห่ง ในรัฐยะไข่ ทางภาคเหนือของประเทศ ถูกเข้าโจมตีเมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืน ไม้ และมีด และเชื่อว่าผู้ก่อเหตุเหล่านี้เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญา
“จำเป็นต้องมีการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบ เนื่องจากความประมาทหละหลวมที่นำไปสู่ความสูญเสียทั้งบุคลากรตำรวจ และอาวุธ” พล.ต.อ่อง โซ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
แม้ พล.ต.อ่อง โซ จะไม่ได้ระบุเจาะจง แต่ พลตำรวจจัตวาหม่อง หม่อง ขิ่น ผู้บังคับการตำรวจชายแดนในเมืองหม่องดอ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุโจมตี ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเจ้าหน้าที่รัฐของรัฐยะไข่ โดย นายซาน ละวิน ได้เข้าแทนที่ในตำแหน่งดังกล่าว
รัฐบาลกล่าวว่า การโจมตีที่มีการประสานงานกันครั้งนี้ดำเนินการโดยกลุ่มที่ชื่อว่า “Aqa Mul Mujahidin” ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงต่อกลุ่มชาวมุสลิมหัวรุนแรงในปากีสถาน และกลุ่มอื่นๆ รวมถึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งล่าสุดต่อกองกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รัฐยะไข่
นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตี มีคลิปวิดีโอหลายชิ้นถูกส่งต่อในโลกออนไลน์ ที่เผยให้เห็นกลุ่มชายพร้อมอาวุธประกาศทำญิฮาดในภาษาโรฮิงญา
กองทัพกำหนดให้พื้นที่ในรัฐยะไข่เป็น “เขตปฏิบัติการ” และกองกำลังทหารถูกระดมลงพื้นที่เข้ากวาดล้างผู้โจมตีที่ยึดอาวุธ และกระสุนไปมากกว่า 10,000 นัด จากการโจมตีเมื่อวันที่ 9 ต.ค.