เอเอฟพี - อองซานซูจี จัดการประชุมหารือครั้งสำคัญกับแกนนำอาวุโสของกลุ่มกบฏในวันนี้ (17) ในความมุ่งมั่นที่จะทำข้อตกลงหยุดยิงกับกองกำลังชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่ต่อสู้กับกองทัพของประเทศมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ
ซูจี ยกประเด็นสันติภาพเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาลพลเรือนที่เข้าแทนที่การปกครองของทหารยาวนานหลายทศวรรษเมื่อช่วงต้นปี และเป็นภารกิจที่หนักหน่วงในประเทศที่กองทัพซึ่งกลุ่มกบฏชาติพันธุ์หลายกลุ่มยังคงลังเล และไม่วางใจ ยังคงรักษาการควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ
ซอ เต รองผู้อำนวยการสำนักงานประธานาธิบดี กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า อองซานซูจี และผู้ร่วมงานใกล้ชิดของซูจีได้พบหารือกับ 5 แกนนำจากสภาสหพันธรัฐแห่งชาติสหภาพ (UNFC) ซึ่งเป็นตัวแทนของทั้งกลุ่มกบฏที่ได้ลงนามในข้อตกลงหยุดยิง และกลุ่มกบฏที่ยังปฏิเสธจะร่วมลงนาม
“มันเหมือนกับการประชุมครอบครัว” ซอ เต กล่าวต่อผู้สื่อข่าวก่อนการประชุมหารือที่จัดขึ้นในนครย่างกุ้ง
ในหมู่ตัวแทนที่เข้าร่วมหารือ ยังรวมนายพลเอ็น บัน ลา จากองค์กรอิสรภาพกะฉิ่น (KIO) ฝ่ายการเมืองของกลุ่มกบฏที่มีอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของพม่า ที่ยังไม่ลงนามข้อตกลงหยุดยิง
“มันเป็นการประชุมสร้างความเชื่อมั่นที่คาดว่าจะมีคำถามคำตอบเกิดขึ้นจำนวนมากจากทั้งสองฝ่าย” หล่า หม่อง ฉ่วย ที่ปรึกษารัฐบาลด้านกระบวนการสร้างสันติภาพ กล่าว
สื่อได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพแค่ช่วงการทักทายก่อนเริ่มประชุมหารือเท่านั้น
พม่า มีบาดแผลจากความขัดแย้งทางชาติพันธุ์นับตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2491 ด้วยกลุ่มชนกลุ่มน้อยต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นอิสระจากรัฐบาลกลางที่พวกเขาเชื่อว่าถูกละเลย และละเมิดสิทธิมายาวนาน
ซูจี ได้ให้คำมั่นว่า จะยุติมรดกอันเจ็บปวดนี้ด้วยแผนที่จะจัดการประชุมสันติภาพครั้งใหญ่ในช่วงปลายฤดูร้อน แต่ความขัดแย้งยังคงปะทุขึ้นในหลายพื้นที่ระหว่างกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ และกองทัพที่ปฏิบัติการอยู่ไกลกว่าที่รัฐบาลพลเรือนจะเข้าถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐกะฉิ่น และรัฐชาน
ประชาชนราว 240,000 คน ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยเนื่องจากความไม่สงบ และความขัดแย้งของชุมชนทั่วประเทศ
กลุ่มกบฏมากกว่า 12 กลุ่ม ยังวางแผนที่จะจัดการหารือของพวกเขาเองในปลายเดือนนี้ ที่รัฐกะฉิ่น ซึ่งการประชุมในวันนี้ (17) ถูกมองว่าเป็นขั้นตอนสำคัญต่อการโน้มน้าวกลุ่มที่เหลือที่จะอ้าแขนรับกระบวนการสันติภาพของรัฐ.