MGRออนไลน์ - ชาวจังหวัดเหงะอาน (Nge An) นับหมื่นคนได้ไปร่วมพิธีฝังซากวาฬขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ในวันเสาร์ 28 พ.ค.นี้ หลังจากคนนับหมื่นได้ช่วยกันลากซากขนาดใหญ่ขึ้นจากทะเล เรือประมงได้พบซากวาฬตัวนี้เมื่อวันก่อน ความยาวกว่า 10 เมตร น้ำหนักไม่น้อยกว่า 7 ตัน และการนำขึ้นบนบกไม่ใช่เรื่องง่าย
คนหลายร้อยคนได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ทั้งช่วยลาก และช่วยเชียร์ โดยมีเครื่องจักรเป็นรถขุด กับรถเครนขนาดใหญ่เป็นเครื่องมือ และมีกระแสน้ำหนุนเนื่อง ในที่สุดทุกคนก็ทำได้สำเร็จ
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เหงือยลาวโดง (Nguoi Lao Dong “คนงาน”) ฝั่งทะเลเวียดนามเหนือจดใต้ ได้กลายเป็นสุสานสำหรับฝังสัตว์เลี่้ยงลูกด้วยนม ยักษ์ใหญ่จากมหาสมุทรเป็นจำนวนมาก ทุกปีจะมีวาฬขนาดใหญ่หลากชนิดไปเกยตื้นตาย หรือซากลอยไปถึงชายฝั่งปีละนับสิบตัว หรือมากกว่านั้น
ซากวาฬตัวล่าสุดนี้ ถูกกระแสน้ำซัดเข้าสู่บริเวณชายฝั่ง อ.เดียนเจิว (Dien Chau) และเรือหาปลาสังเหตุเห็นตอนเช้าวันศุกร์ 27 พ.ค. ในสภาพที่เริ่มเน่า ทางการอำเภอจึงต้องเร่งนำขึ้นหาดให้ทันเวลา ก่อนจะยุ่งยากมากไปกว่านี้
การนำเจ้าแห่งท้องทะเลที่มีน้ำหนักเท่าๆ กับช้างเอเชียโตเต็มที่ 2-3 เชือก ขึ้นบกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายสิบคนต้องลงไปช่วยกันมัดด้วยเชือกเส้นใหญ่ และช่วยกันดึงเข้าใกล้ฝั่งให้มากที่สุด ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนอีกหลายพันคน จนกระทั่งซากวาฬเกยตื้น ลากต่อไปไม่ได้ และฝั่งยังอยู่ห่างออกไปกว่า 100 เมตร
สถานการณ์เช่นนี้ทุกคนทราบดีว่า กระแสน้ำขึ้นเท่านั้นที่จะช่วยได้ และจะต้องรอต่อไปจนกระทั่งเวลาบ่ายแก่
ก่อนเวลานั้นจะมาถึง รถขุดขนาดใหญ่คันหนึ่งได้เข้าทำหน้าที่ขุดร่องน้ำความกว้างกว่า 5 เมตร ลึกอีกเท่าๆ กัน และเป็นระยะทางนับร้อยเมตรเพื่อใช้เป็นเส้นทางลากซากวาฬเข้าให้ถึงริมหาด เพื่อให้เครนขนาดใหญ่อีกคันหนึ่งที่ทางการจังหวัดส่งไปช่วยเข้าทำหน้าที่ต่อ เพื่อยกซากวาฬขึ้น และนำไปยังหลุมขนาดใหญ่ที่รถขุดได้ขุดเตรียมเอาไว้รอรับ
กว่าจะถึงเวลานั้นก็ตกค่ำพอดี พิธีฝังซากวาฬจึงเลื่อนมาเป็นเช้าวันเสาร์ โดยนิมนต์พระสงฆ์ไปประกอบพิธีทางศาสนาด้วย กิจกรรมนี้ดำเนินมาจนถึงเวลาบ่าย โดยมีผู้คนนับหมื่นจากละแวกใกล้เคียงไปชมเหตุการณ์ มีการระดมตำรวจนับร้อยนายไปจัดระเบียบ
ตามรายงานของเหงือยลาวโดง วาฬตัวล่าสุดนี้ถูกฝังไว้ภายในบริเวณที่เรียกว่า “สุสานวาฬ” ในท้องถิ่นนั้น สุสานดังกล่าวก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 หลังจากมีวาฬ กับโลมาขนาดใหญ่ไปเกยตื้นตายที่นั่นหลายตัว และยังมีอีกหลายตัวตามไปในปีถัดมา โดยไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายได้ว่า เพราะเหตุใด หรือเกิดความบังเอิญอย่างไร วาฬจากท้องทะเลใหญ่จึงเลือกบริเวณนั้นเป็นที่ตาย
.
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน คือ เมื่้อวันที่ 25 พ.ค. มีวาฬขนาดใหญ่มากอีกตัวหนึ่ง ความยาวถึง 14 เมตร ไปเกยตื้นที่ชายฝั่งในบริเวณใกล้เคียงกัน ห่างจากสุสานไปทางใต้ไม่กี่ร้อยเมตร ชาวประมงในพื้นที่หลายพันคนต้องช่วยกันอย่างยากเย็นแสนเข็ญนำวาฬตัวนี้กลับลงสู่น้ำลึกอีกครั้งหนึ่ง และก็ทำได้สำเร็จ
ตามรายงานของสื่อทางการ ตลอดชายฝั่งทะเลเวียดนามกว่า 3,000 กิโลเมตร เหนือจดใต้ ยังมี “สุสานวาฬ” อยู่อีกหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จาก จ.เหงะอาน และ จ.ห่าตี๋ง (Ha Tinh) ในภาคกลางตอนบน ลงไปจนถึง จ.บั๊กเลียว (Bac Lieu) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง
ชาวประมงเวียดนามมีความเชื่อมาแต่โบราณกาล ว่า วาฬเป็นสัตว์นำโชคลาภ การทำบุญแก่สัตว์ยักษ์ชนิดนี้จะทำให้จับปลาได้มากมาย
แต่ในความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ ก็คือ เมื่อซากวาฬเกยตื้นในบริเวณใด เมื่อเน่าเปื่อยก็จะก่อให้เกิดมลพิษที่นั่น กลายเป็นความทกข์ทรมานสำหรับผู้คนในท้องถิ่น และจะต้องใช้เวลานานหลายวันก่อนที่ซากเน่าเปื่อยจะถูกกระแสน้ำซัดกลับสู่ทะเลไปจนหมดสิ้น.