เอพี - การศึกษาวิจัยของเวียดนามเตือนว่าจะเกิดผลกระทบเลวร้ายอย่างหนักต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจสำหรับประชาชนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ตามแนวแม่น้ำโขง หากมีการสร้างเขื่อน 11 แห่ง ตามเส้นทางหลักของแม่น้ำ
รายงานการศึกษาวิจัยเป็นเวลา 2 ปีครึ่งโดยผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำของเดนมาร์ก ที่เวียดนามยื่นต่อคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง คณะทำงานที่ประกอบด้วยไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว ที่ตั้งขึ้นเพื่อประสานงานจัดการแหล่งน้ำระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง คาดการณ์ว่าจะเกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายสูงถึงสูงมากต่อการประมงและการเกษตรในกัมพูชาและเวียดนาม หากเขื่อนทั้ง 11 แห่ง สร้างขึ้นตามแผนที่วางไว้ และความเสียหายอาจรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก หากแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำโขงมีการสร้างเขื่อนขึ้นเช่นกัน รวมทั้งโลมาอิรวดีอาจจะหายไปจาก แม่น้ำโขงด้วย
การพัฒนาเขื่อนไฟฟ้าที่ไม่ลดลงจะก่อให้เกิดความเสียหายยาวนานต่อพื้นที่ราบน้ำท่วมถึงและสภาพแวดล้อมทางน้ำ เป็นผลให้สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้อยู่อาศัยหลายล้านคนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รายงานระบุ
พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับภัยแล้งรุนแรงเนื่องจากปรากฎการณ์เอลนิโญ และเจ้าหน้าที่ในเวียดนามได้กล่าวว่าผลกระทบรุนแรงยิ่งขึ้นเนื่องจากเขื่อนที่จีนสร้างบนแม่น้ำโขงตอนบน แม่น้ำที่ไหลผ่านพม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม
แม่น้ำโขงยังเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่หล่อเลี้ยงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนหลายล้านคน แต่การสร้างเขื่อนเป็นปัจจัยที่ลดแหล่งทำการประมง เพราะเป็นอุปสรรคในการอพยพเพื่อผสมพันธุ์ของปลาน้ำจืด และทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร
การศึกษาระบุว่า ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขงตอนล่างจะลดลง เพราะเขื่อนจะดักตะกอนแม่น้ำ เป็นผลให้ปริมาณสารอาหารที่ไหลมาตามกระแสน้ำลดลงเป็นจำนวนมาก
รายงานยังคาดการณ์ว่า การทำการเกษตรและประมงในแต่ละปีของเวียดนามจะเสียหายราว 760 ล้านดอลลาร์ และ 450 ล้านดอลลาร์ในกัมพูชา ส่วนการจับปลาจะลดลงประมาณ 50% ทั้งเวียดนามและกัมพูชา และ 10% ของสายพันธุ์ปลาในพื้นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขงจะหายไปจากพื้นที่หรือสูญพันธุ์
ลาวอยู่เบื้องหลังข้อเสนอการสร้างเขื่อนใหม่หลายแห่งบนแม่น้ำโขงตอนล่าง และยังเดินหน้าก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรีในปี 2555 แม้จะมีความวิตกจากประเทศเพื่อนบ้านก็ตาม ด้วยต้องการให้การส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่เป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาน้อยที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงระบุว่า รายงานของเวียดนามจะช่วยเสริมการศึกษาของคณะที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปีหน้า.