เอพี - พื้นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขงทางภาคใต้ของเวียดนาม ที่เป็นพื้นที่ปลูกข้าวแห่งหลักของประเทศ กำลังเผชิญต่อภาวะภัยแล้ง และการรุกล้ำของน้ำเค็มครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่าครึ่งล้าน ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
ภัยแล้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อการผลิตข้าวสูงถึง 1 ล้านตัน แต่คาดว่าไม่กระทบต่อสถานะของเวียดนามในฐานะผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก หม่า กว่าง จุง เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตร กล่าว
เวียดนามส่งออกข้าวเฉลี่ยปีละ 7 ล้านตัน รองจากไทย และอินเดีย ซึ่งไทยเองก็ประสบภาวะภัยแล้งรุนแรงเช่นกัน
ภาวะขาดแคลนน้ำอาจส่งผลให้เกษตรกรจำนวนมากยากจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีฝนตกลงมาในระหว่างช่วงนี้จนถึงปลายเดือน เม.ย.
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ภัยแล้งที่เกิดขึ้นเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ และการสร้างเขื่อนไฟฟ้ามากกว่า 10 แห่ง ที่ต้นแม่น้ำ
เล หาย บิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า จีนได้ปล่อยน้ำเพิ่มจากเขื่อนมากขึ้น 2 เท่าเพื่อช่วยเหลือบรรเทาวิกฤตนี้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามยังระบุว่า กระทรวงได้ทำงานร่วมกับจีน และประเทศต่างๆ ที่อยู่ตามแนวแม่น้ำโขง เพื่อการใช้ทรัพยากรของแม่น้ำอย่างยั่งยืน
ส่วนการรุกล้ำของน้ำเค็มอยู่ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่เป็นผลให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ปลูกข้าวมากกว่า 1 ล้านไร่ และรัฐบาลได้มอบความช่วยเหลือ จำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ 3 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในเขตที่่ราบลุ่มปากแม่น้ำโขง ตามการรายงานของสื่อเวียดนาม.
.
.