รอยเตอร์ - การเลือกตั้งครั้งต่อไปของกัมพูชาจะมีขึ้นในเดือน ก.ค.2561 ตามการประกาศของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน ขณะที่บรรดาผู้นำของพรรคฝ่ายค้านกำลังเผชิญต่อข้อหาทางกฎหมาย ที่ฝ่ายค้านระบุว่า มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองด้วยหวังที่จะหยุดยั้งการท้าทายผู้นำประเทศในการเลือกตั้งครั้งหน้า
แม้จะเป็นเวลาอีกนานก่อนที่กัมพูชาจะเปิดหีบเลือกตั้ง แต่ความตึงเครียดทางการเมืองกลับเพิ่มสูง เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2556 นั้น ถือเป็นความท้าทายที่หนักหนาสาหัสของฮุนเซน ตลอดการปกครองประเทศกว่า 3 ทศวรรษ
ฝ่ายค้านที่นำโดย นายสม รังสี กล่าวหาว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของฮุนเซน โกงเลือกตั้งเพื่อคว้าชัยชนะ และได้คว่ำบาตรรัฐสภาเป็นเวลาหนึ่งปี
ฮุนเซน ประกาศผ่านทางโทรทัศน์ว่า การเลือกตั้งครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 22 ก.ค.2561
“ผมหวังว่าจะไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะปฏิเสธผลการเลือกตั้งในตอนนั้น และกล่าวหาว่า คะแนนเสียงหายไป 1.2-1.5 ล้านเสียง” ฮุนเซน กล่าวถึงข้อกล่าวหาที่พรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ของสม รังสี ในปี 2556 ว่า มีประชาชนหลายล้านคนไม่มีชื่ออยู่บนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
พรรค CPP ชนะการเลือกตั้งแต่เสียงส่วนใหญ่ในสภาลดลงอย่างมาก และฮุนเซน ได้ปรับคณะรัฐมนตรีที่อายุมากออก ซึ่งนักวิจารณ์หลายราย กล่าวว่า ฮุนเซน กำลังดำเนินยุทธศาสตร์สองทาง คือ พยายามที่จะเรียกเสียงผู้สนับสนุนพรรค CPP กลับคืนมา ขณะเดียวกัน ก็ใช้ระบบศาลทำให้ฝ่ายค้านอ่อนกำลังลง
สม รังสี ต้องลี้ภัยในต่างแดนนับตั้งแต่เดือน พ.ย. เพื่อเลี่ยงโทษจำคุกจากข้อหาที่เขาเคยได้รับอภัยโทษมาก่อนหน้านี้ ส่วนแกม สุขา รองหัวหน้าพรรคของรังสี ก็เผชิญต่อข้อหาหมิ่นประมาทและซื้อบริการทางเพศ หลังบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างตัวเขา และหญิงสาวรายหนึ่งหลุดออกมา
คดีความทางกฎหมายยังเกิดขึ้นต่อสมาชิกพรรค CNRP และนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนอีกหลายคนที่เกี่ยวข้องต่อคดีของแกม สุขา ส่วนเมื่อปีก่อน สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรค CNRP ถูกทำร้ายร่างกายนอกสภาระหว่างการชุมนุมของผู้สนับสนุนพรรค CPP
ฟิล โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์วอช ภูมิภาคเอเชีย ระบุว่า หลังการเลือกตั้งปี 2556 ฮุนเซน ได้หวนกับมาใช้กลยุทธ์การข่มขู่ทางกาย และทางกฎหมาย เช่นที่เคยใช้ในการเลือกตั้งปี 2551 และปี 2546.